วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เที่ยวบรูไนแบบตามใจฉัน ชมมัสยิดทองคำมัสยิดสุลต่านและหมู่บ้านกลางน้ำ Kampong Ayer

เที่ยวบรูไนแบบตามใจฉัน ชมมัสยิดทองคำมัสยิดสุลต่านและหมู่บ้านกลางน้ำ Kampong Ayer


                ความตั้งใจที่ว่าจะตื่นเช้าแล้วออกไปเที่ยวบรูไนก็หมดไปด้วยความที่เราสองคนนอนตื่นสายกันมาก โชคดีที่เราได้รับคูปองทานอาหารเช้าฟรี 3 มื้อ เพราะเราเลือกที่จะพักที่นี่ถึง 3 คืน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินลงไปที่ร้านอาหารที่อยู่นอกตัวโรงแรมซึ่งน่าจะมี Connection กับทางโรงแรมนั่นแหละ ร้านอาหาร My Town Eating House ที่เราจะไม่ได้ฝากท้องแค่มื้อเช้าเท่านั้น ด้วยความอร่อยของชุดขนมปังสังขยาของมื้อเช้า ทำให้เราติดใจกลับมาลองมื้อค่ำแบบเต็มสตรีมในวันต่อๆไปเลยครับ
ต่อไปนี้เราจะต้องมากินมื้อเช้าที่นี่ทุกวันจ้า 
ขนมปังสังขยาราดด้วยถั่วกระป่องพร้อมไข่ลวก อาหารเช้าแบบสไตล์อังกฤษ

            ท้องอิ่ม แผนที่บรูไนก็เริ่มกาง แพลนต่างๆในหัวก็เริ่มมาทันที การเที่ยวบรูไนด้วยตัวเองพวกเราเริ่มต้นจากการนั่งรถเมล์เข้าไปใจกลางเมืองก่อนเลย เบื้องต้นถ้าเราไปขึ้นรถเมล์ฝั่งเข้าเมืองทุกสายจะวิ่งเข้สู่สถานีหลัก (Central Station)รถเมล์สาย45 เป็นสายแรกที่เข้ามาเราเลือกขึ้นทันที ค่ารถโดยสารคนละ 1 ดอลล่าร์ เพื่อไปลงที่ท่ารถหลักใจกลางเมือง
ชุดสตรีมุสลิมที่นี่สีสันสดใสมากๆ 
รถเมล์คันในภาพนี้แหละ พาพวกเราเข้าสู่ใจกลางเมือง 
ถนนหนทางในบรูไนโล่งรถไม่ติดเลย

        ถนนหนทางในกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน ช่างดูสะอาดตา รถราวิ่งน้อยไม่มีติดขัด ผิดตรงที่ว่าแทบไม่เห็นคนเดินตามท้องถนนบ้างเลย คนต่างใช้รถส่วนตัวกันหมด กลายเป็นว่าคนที่ขึ้นรถเมล์เป็นคนต่างชาติที่มาทำงานที่นี่กันทั้งนั้น จุดแรกที่เราได้แวะเดินคือริมแม่น้ำที่อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ (Kampong Ayer) แต่ยังก่อนตอนเช้าขอไปเยี่ยมชมมัสยิดทองคำก่อน
แม่น้ำบรูไนอีกฝั่งคือหมู่บ้านกลางน้ำ 

              เดินผ่านห้างสรรพสินค้าที่ยังไม่เปิดทำการคือห้างยาย่าซัน (Yayasan Complex) เบื้องหน้าเห็นโดมมัสยิดทองคำสีเหลืองเรืองรองอยู่ด้านหน้า ถึงขนาดของมัสยิดไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ความงามเบื้องหน้าก็ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะหยุดยืนมองตรงนั้น

ย่านใจกลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวันในตอนเช้า 
ห้างสรรพสินค้า Yayasan Complex ห้างหรูใจกลางกรุง 
เห็นมั้ยโดมมัสยิดทองคำอยู่ข้างหลังห้าง งดงามยิ่งนัก

มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน (Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque)
                มัสยิดรูปโดมทองคำเหลืองอร่ามที่น่าจะสวยที่สุดในอาเซียน มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1958 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองริมแม่น้ำเคดายัน ( Sungai Kedayan) เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณชาวมุสลิมในบรูไนเลยล่ะ คนที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าไปต้องแต่งกายมิดชิดเรียบร้อย ถ้าชุดไม่เรียบร้อยข้างนอกจะมีชุดคลุมให้ยืมสวมใส่ฟรีทั้งของชายและหญิง และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพข้างใน ทั้งที่ข้างในตกแต่งด้วยพรมทอพิเศษจากซาอุดิอาราเบีย และโคมไฟคริสตัลห้อยระย้าจากยุโรป
 Sultan Omar Ali Saifuddien Mosque
โดมทองคำสร้างมาตั้งแต่ยุค 60s 

แต่งกายไม่มิดชิดก่อนเข้าชมข้างใน ทางมัสยิดมีชุดให้ยืมใช้ฟรีจ้ะ

          เมื่อจิตใจสงบแล้วให้ลองเดินวนชมบรรยากาศรอบๆ มัสยิด จะเจอมุมถ่ายภาพบริเวณสระน้ำด้านนอกที่จะแลเห็นเงาสะท้อนของมัสยิด และเรือจำลองตั้งเด่นเป็นสง่า ยิ่งถึงเวลาละหมาดเราจะได้ยินเสียงนำสวดมนต์ดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณกันเลยทีเดียว

เสียดายที่ลมพัดแรงเลยไม่ค่อยเกิดเงาสะท้อนน้ำ 

เรือจำลองโบราณกลางสระน้ำ 
อาคารหลังสวยข้างมัสยิด

หมู่บ้านกลางน้ำ กัมปงไอเยอร์ หรือ Water Village  (Kampong Ayer)
หลังจากใช้เวลาในช่วงเช้าที่มัสยิดเสร็จก็ถึงเวลาที่จะไปเดินชมหมู่บ้านกลางน้ำของแม่น้ำเคดายันกันต่อ  หมู่บ้านกลางน้ำถือว่าเป็นชุมชนดั้งเดิมเริ่มตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของประเทศบรูไนกันเลยทีเดียว  บ้านแต่ละหลังสร้างขึ้นกลางน้ำด้วยเสาเข็มคอนกรีต บางหลังก็ยังเป็นไม้ปักอยู่ในน้ำอยู่ ทางเดินเชื่อมแต่ละหลังบ้างเป็นไม้บ้างเป็นทางเดินแผ่นคอนกรีต แต่ดูรวมๆแล้วเป็นชุมชนที่มีเสน่ห์เพราะเขาอยู่กันแบบเรียบง่ายและพอเพียงจริงๆ
ท่าเรือหลักของหมู่บ้านกัมปงไอเยอร์
          การเดินทางมาเยือนที่นี่ก็ไม่ยากถ้าจะเหมาเรือแท็กซี่ที่เรียกว่า  Water Taxi นำเที่ยวก็ไม่ยาก ค่าเหมาจะอยู่ที่ 50ดอลล่าร์ สำหรับการพาชมทั่วหมู่บ้านแบบตามใจฉันและไปได้ครบ แต่ถ้าคุณอยากเดินลุยเดินชมเองทั้งหมด แนะนำให้ใช้บริการเรือแท็กซี่ข้ามฟาก ซึ่งเสียค่าบริการแค่ 1 ดอลล่าร์บรูไนเท่านั้น เรือจะพาข้ามจากฝั่งหน้าห้างสรรพสินค้ามาลงที่ Kampong Ayer Cultural & Tourism Gallery  พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ชุมชนที่ภายในจะมีภาพประวัติศาสตร์ชุมชนและการก่อตั้งชุมชนที่นี่ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรี
มาถึงแล้วพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ชุมชน 
ภาพถ่ายจากหอชมวิว เห็นมัสยิดกลางน้ำเล็กๆนั่นไหม 
บ้านทุกหลังสร้างอย่างเรียบง่ายและพอเพียง 

บ้านสมัยใหม่ทางรัฐบาลจะปลูกสร้างให้แบบสำเร็จรูป 
ทางเดินเชื่อมระหว่างหมู่บ้านจะใช้สะพานคอนกรีตเป็นหลัก 
คล้ายบ้านเอื้ออาทรของเรามั้ย ต่างกันที่บ้านเหล่านี้ปลุกสร้างในน้ำเท่านั้นเอง 

การเดินชมหมู่บ้านในยามสายๆในวันทำงานทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านร้างมากๆ เนื่องจากคนในวัยทำงานและวัยเด็กนักเรียนต่างก็นั่งเรือข้ามฟากไปทำงานและไปเอารถที่จอดทิ้งไว้ตามริมฝั่งแม่น้ำไปทำงานกันหมด พวกเราเลยเดินกันได้อย่างชิวๆ ไม่ต้องกลัวสุนัขจรจัดที่จะคอยไล่เห่าผู้มาเยือนนะ เพราะบนเกาะกลางน้ำนี่มีแต่แมวน้อยผู้น่ารัก บางบ้านก็เลี้ยงนกเขา นกกรงหัวจุกเป็นงานอดิเรกด้วย เมื่อความเจริญเข้ามาทำให้บ้านบางหลังเริ่มเป็นคอนกรีต บางหลังก็สร้างขึ้นใหม่แล้วหน้าตาเหมือนกันหมดเลย บางหลังก็เกิดเพลิงไหม้แล้วยังไม่ได้ซ่อมแซมปรับปรุง

บางหลังก็ผุพังราบลงมาเป็นอันตรายกับคนเดินผ่านไปมา 
บางจุดทางเดินเชื่อมต่อระหว่างหลังก็เป็นน้ำ้ 
บางหลังมีอารมณ์ศิลป์หน่อยก็ตกแต่งทาสีซะสวยงามเลย 
หลังที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ต้องรอการสร้างใหม่อย่างเดียวเลย 
มาแล้วเจ้าเรือรับจ้าง Water Taxi พาหนะคู่ชีพที่จะพาคนที่นี่ไปทำงานบนฝั่ง

สุเหร่าตามอย (Tamoi Mosque) เป็นสุเหร่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชุมชนกลางน้ำ โดยเป็นสุเหร่าที่มีขนาดเล็กที่สร้างขึ้นใหม่ยอดโดมเป็นสีเขียวสด กลางคืนประดับไฟสวยงาม ภายในห้องละหมาดกว้างใหญ่ติดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งพวกเราแอบเข้ามาหลบร้อนและกางแผนที่เพื่อที่จะเดินกลับที่พักกัน ในที่สุดเราก็ค้นพบว่าที่นี่สามารถเดินกลับที่พักของเราซึ่งอยู่ใกล้มากๆ เลยได้แวะฝากท้องที่ห้างใกล้กับที่พักเป็นอาหารแบบสไตล์มาเลย์ คือข้าวไก่ย่างกับข้าวปลาหมึกทอดพร้อมน้ำจิ้มรสหวาน อาหารการกินที่บรูไนจะไม่ค่อยมีผักจะหนักไปทางเนื้อสัตว์มากกว่า
สุเหร่าตามอยมองจากฝั่งหมู่บ้านดูใหญ่โตสวยงามมากจ้า 
ยอดโดมสีเขียวที่เด่นเห็นแต่ไกลเป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นใหม่ 
ทางเดินเข้ามัสยิดจากหมู่บ้านทำจากไม้ระแนงอย่างดี 
ภายในห้องสวดมนต์แอร์เย็นฉ่ำเลยจ้าเราเลยแอบมานั่งพัก 
เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาละหมาดเลยไม่มีผู้คนภายในเลย
ตารางบอกเวลาเปิดปิดในแต่ละวัน
ข้าวไก่ย่างซอสหวานดำเกรียมเลยจานละ 5.90ดอลล่าร์ 
ปลาหมึกทอดจิ้มซอสพริกเอามากินกับข้าวสวยจ้า 
ได้เวลารอรถเมล์ออกเดินทางต่อรอบบ่ายกันแล้ว

มัสยิดจามิ ฮัซซานัลโบลเกียห์ (Jame’ Ars Hassanil Bolkiah Mosque)

จุดหมายในการเดินทางบ่ายนี้คือมัสยิดหลวงแห่งท่านสุลต่าน มีความสง่างามและศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวบรูไนจะต้องมาที่นี่สักครั้งในชีวิต ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1994 นี่เอง ภายในอลังการด้วยวัสดุนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งหินอ่อน ทั้งโคมไฟและพรมปูพื้น ชั้นล่างจะเป็นห้องน้ำและห้องชำระล้างร่างกายก่อนที่จะต้องเดินขึ้นบันไดชั้นสองขึ้นสู่ห้องสวดมนต์ที่แยกเป็นฝั่งชายและหญิง บริเวณภายนอกมัสยิดเป็นสวนร่มรื่นและลานน้ำพุสวยงามกำแพงประดับด้วยกระเบื้องโมเสก

มัสยิดหลวงที่ภายในหรูหราที่สุดขององค์สุลต่านฮัซซานัล โบลเกียห์ 
หน้าประตูทางเข้ามัสยิดมีตราประจำพระองค์ติดอยู่ 
บ่ายนี้ขอแต่งตัวเรียบร้อยให้เกียรติสถานที่นิดนึงครับ 
ประตูทางเข้าสุดอลังการของมัสยิด
น้ำพุสวยรอบๆมัสยิด 
บันไดเลื่อนตรงกลางมีไว้ต้อนรับองค์สุลต่านและพระราชอาคันตุกะเท่านั้น 
หลังคาและหออะซานตกแต่งสไตล์อาหรับ 

หลังคายอดโดมมัสยิดทำจากกระจกสเตนกลาส 
ห้องชำระล้างร่างกายอยู่ในชั้นใต้ดิน
กำแพงโมเสกสวยๆที่สวนหินอ่อนภายนอกมัสยิด 

พิพิธภัณฑ์รอยัลรีกัลเรีย (Royal Regalia)

เดินทางมาได้ง่ายจากนอกเมืองด้วยรถเมล์เกือบทุกสายที่เข้า Central bus station เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงเครื่องราชบรรณาการต่างๆ ทั่วโลกที่ได้จัดถวายให้กับองค์สุลต่าน รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในงานพระราชพิธีต่างๆ ล้วนทำจากทองคำแท้และประดับเพชรนิลจินดาตระการตา แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ บริเวณที่ถ่ายรูปได้คือด้านนอกที่มีราชรถที่ประดับและตกแต่งด้วยทองคำแท้ และปืนใหญ่ทองคำแท้ ค่าเข้าชมฟรีมีบริการตู้ล็อกเกอร์ให้เก็บของด้วย ด้านหน้ามีของที่ระลึกของบรูไนขายไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อไปฝากคนทางบ้านครับ พิพีธภัณฑ์นี้เปิดทำการวันอาทิตย์-พฤหัส เวลา 8.30-16.30 น.
อาคารพิพิธภัณฑ์รอยัลรีกัลเลีย  แหล่งเก็บสมบัติอันทรงคุณค่า
ปืนใหญ่ทองคำแท้ด้านหน้า 
สายการบินแห่งชาติบรูไนและของราชวงศ์บรูไนด้วย 
แผนที่ห้องแสดงของล้ำค่าต่างๆภายในพิพิธภัณฑ์ 
พิพิธภัณฑ์รอยัลรีกัลเลียไม่เก็บค่าเข้าชมนะครับ 
โรงเก็บราชรถของราชวงศ์ 
แม้แต่ศาสตราวุธก็ยังงาม 

 ราชรถและโล่ห์ตกแต่งด้วยเงินและทอง

ยามเย็นอาทิตย์ใกล้ตกเวลาเหลือเราเลยมีเวลาที่จะเดินเล่นชมเมืองสักนิด เดินผ่านพิพิธภัณฑ์ทางการทหาร อาคารสำนักงานและสนามกีฬาแห่งชาติบรูไน สังเกตได้ว่าคนที่นี่ไม่ค่อยเดินถนนกัน ล้วนแต่ใช้รถส่วนตัวและถนนบางเส้นก็ไม่มีทางเท้าสำหรับคนเดินด้วย เย็นนี้พวกเราวางแผนที่จะไปเดินเที่ยวตลาดนัดกลางคืนกัน ที่ท่ารถเขาแนะนำให้ไปที่ตลาดนัดกาด้ง Gadong Night Market
ใจกลางเมืองมีอาคารสวยให้ชมระหว่างการเดินทางเยอะเลย 
นานๆทีจะเห็นคนเดินตามท้องถนนที่นี่ 
วงเวียนหอนาฬิกาใจกลางเมือง 
มัสยิดโอมาร์ไซฟัดดินที่เราได้แวะในตอนเช้า 
สนามกีฬาแห่งชาติบรูไน 
อาคารที่ทำการสายการบินรอยัลบรูไน 
ขวดน้ำหอมสวยๆ สไตล์อาหรับ

ตลาดกลางคืน Gadong Night Market
ตลาดนัดกาด้ง อยู่ในเมือง Gadong ห่างจากกรุงบันดาร์เสรีเบกาวันประมาณ 5 กิโลเมตร ใกล้กันจะมีห้างสรรพสินค้าติดแอร์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ติดกันจะเป็นตลาดนัดของกินที่ขายของตอนกลางคืนแบบซื้อใส่ห่อกลับบ้านไม่มีพื้นที่นั่งรับประทาน อาหารการกินก็มีทั้งผลไม้เมืองร้อนเช่นทุเรียน ลองกอง กล้วย อาหารสำเร็จรูปมีทั้งปลาเผา ไก่ย่าง ลูกชิ้นทอด เต้าหู้ทอด เคบับและอาหารอื่นๆอีกเพียบ งานนี้เราเดินเพลินจนลืมเวลาที่รถหมด เอาล่ะสิ เดือดร้อนต้องเดินเข้าไปในโรงแรมเพื่อให้โรงแรมเรียกรถแท็กซี่ให้ งานนี้แอบเซ็งนิดๆ เพราะค่าโดยสารปาเข้าไป17 ดอลล่าร์บรูไนเลยจ้ะ แต่ก็ได้ของกินกลับมากินที่โรงแรมเยอะเหมือนกัน กินให้หายเหนื่อย พรุ่งนี้ต้องออกไปเที่ยวนอกเมืองกันอีกจ้า

มาถึงแล้วตลาดนัดเมืองกาด้ง 
ป้ายทางเข้าเก่าไปนิด ตอนเช้าจะมีตลาดสดที่นี่ 
แต่พอตกเย็นจะมีของกินขายมากมาย 
ใครชอบกินอาหารอาหรับที่นี่มีให้กินด้วยล่ะ 
แฟนๆทุเรียน ลองกอง สละ ไม่ควรพลาดตลาดนี้เลย ราคาถูกมากๆ 
เจ๊ขอมาอุดหนุนลูกชิ้นปลาทอดถุงนึงค่ะ 
ที่นี่มีข้าวต้มมัดมีเต้าหู้ทอดคล้ายบ้านเรา 
แฟนๆปลาเผาปิ้งย่างไม่ควรพลาดเลย
โคมไฟตุรกีสวยวางขายในห้างข้างตลาดนัด ราคาแพงมากๆ 
โรงแรมและห้างหรูที่เราใช้บริการเรียกรถแท็กซี่กลับโรงแรมกัน 
เดินตลาดนัดตั้งนานผลสุดท้ายซื้อกลับมากินแค่นี้เอง หมดไป4ดอลล่าร์ครับ
อิ่มท้องกำลังดี ฝันดีครับ