วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Chennai Tamil Nadu : แบกเป้เที่ยวเชนไน ทมิฬ (ที่ยัง) น่าดู

Chennai Tamil Nadu : แบกเป้เที่ยวเชนไน ทมิฬ (ที่ยัง) น่าดู 

ตอนที่1 มีอะไรน่าดูที่เชนไนบ้าง จากรัฐทมิฬนาดู ที่ฟังดูแล้วน่ากลัว


            ทำไมถึงไปเชนไน มีอะไร อากาศร้อนจะตาย รถติด บ้านเมืองสกปรก รัฐทมิฬนาดูมีแต่คนดำดูน่ากลัว อินเดียใต้บ้านเมืองไม่โสภา จะถ่อสังขารไปทำไม คุ้มค่าวีซ่าเหรอ หลากคำถามที่ทำให้เราคิดแล้วคิดอีก ก่อนที่จะตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองเชนไน (Chennai) เมืองหลวงของรัฐทมิฬนาดู (Tamil Nadu) ของประเทศอินเดียทางตอนใต้
สาเหตุที่พวกเราเลือกที่จะเดินทางมาที่นี่น่ะหรือ ก็เพราะว่าเคยแบกเป้เที่ยวอินเดียตอนเหนือมาแล้ว ทั้งเมืองหลวง รัฐราชาสถานและรัฐเบงกอลตะวันตก เราจึงอยากมาที่นี่ “รัฐทมิฬนาดู” ซึ่งเป็นรัฐที่ร่ำรวยอารยะธรรมฮินดูโบราณ มีสถานที่ให้เราเข้าชมมากมายน่ะสิ ฉันจึงตามมาค้นคว้าหาความงาม ณ เมือง แห่งนี้ เจนไน

ผู้คนในอินเดียล้วนเป็นมิตรแม้ว่าจะต่างศาสนากันก็ตาม


               เมืองเชนไน (Chennai) หรือบางท่านอ่านออกเสียงว่า “เจนไน” นั้น เดิมมีชื่อเรียกว่าเมือง “มัทราส”  (Madras) อันเป็นเมืองแห่งพระนางมัทรีในเทวตำนาน เป็นเมืองที่เก่าแก่และโบราณ เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่คริสตศาสนาในอินเดีย โดยท่านนักบุญโทมัส (ST. Thomas)
จึงไม่ต้องแปลกใจที่ภายในเมืองนี้จะมีโบสถ์หลังงามขนาดใหญ่และเก่าแก่เต็มไปหมด และมีชาวอินเดียที่นับถือศาสนาคริสต์อยู่พอสมควรเนื่องจากอังกฤษเคยเข้ายึดครองที่นี่ และได้กลายเป็นเมืองหลวงของรัฐทมิฬนาดูในที่สุด ภายหลังทางการอินเดียได้เปลี่ยนชื่อเมืองมัทราสเสียใหม่
ให้เป็นชื่อภาษาฮินดี ตามแบบฉบับของอินเดีย จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองเจนไนจนถึงทุกวันนี้ ภาษาที่ใช้สื่อสารกันในเมืองนี้คือภาษาทมิฬ (Tamil) เป็นภาษาราชการและมีการใช้ภาษาฮินดีอยู่บ้าง และภาษาอังกฤษคนทั่วไปจะสื่อสารได้เป็นอย่างดี


Saint Thomas church

          ราว 16.00 น. พวกเราพร้อมหน้าพร้อมตากันที่สนามบินดอนเมือง หลังจากที่ได้อุดหนุนตั๋วโปรของเจ้าหางแดงมาในราคา 5800 บาท ซึ่งนับเป็นเส้นทางสุดท้ายของสายการบินนี้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่สำหรับการเดินทางไปเยือนชมพูทวีป หลังจากที่ประสบปัญหาปิดเส้นทางบินอื่นๆไปแล้ว เราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าเส้นทางบินสุดท้ายนี้จะถูกปิดตายเมื่อใด
           กว่าสามชั่วโมงครึ่งที่เราทนนั่งอยู่บนเครื่องบินลำขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยคนอินเดียเกือบทั้งลำ มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่เป็นชาวต่างชาติและแปลกหน้าทั้งที่เครื่องบินลำนี้ทะยานขึ้นจากเมืองไทย ไม่แปลกหรอก ก็พี่ไทยเล่นไปเที่ยวเกาหลีและญี่ปุ่นกันหมดนั่นแหละ เส้นทางอินเดียจึงเป็นเส้นทางที่ไม่มีคนไทยปรารถนาที่จะไปอยู่แล้ว จนพนักงานต้อนรับบนเครื่องอดถามไม่ได้ว่าพวกเราจะเดินทางมาเมืองเจนไนทำไม
รถติดในเมืองเชนไน แม้ว่าจะมืดค่ำแล้วก็ตาม

       เมื่อเราได้แตะพื้นท่าอากาศยานนานาชาติเชนไน ซึ่งเป็นสนามบินขนาดกลางค่อนข้างทันสมัย ด้านนอกมีรถแท็กซี่รอรับผู้โดยสารอยู่เป็นจำนวนมาก มีระบบรอคิวคล้ายกับบ้านเรา ทางเราได้จองโรงแรมในเมืองมีชื่อว่า Emerald Manor Hotel เป็นโรงแรมระดับสามดาวอยู่ในย่านเมืองใหม่ออกไปทางชานเมืองนิด สภาพอากาศในเมืองเจนไนเดือนพฤษภาคมนั้น ร้อนกว่าเมืองไทยมาก เพียงแค่ลมวูบแรกปะทะใบหน้าพวกเราสัมผัสได้ทันทีเลยว่าอากาศตอนกลางวันจะเป็นเช่นไร รถแท็กซี่ได้ฝ่ารถติดในตอนหัวค่ำไปถึงโรงแรมใช้เวลาเกือบ1ชั่วโมง เพราะโรงแรมแห่งนี้จะหายากนิดนึงป้ายบอกทางค่อนข้างเล็ก

โรงแรมที่นี่ใหม่และสะอาดจริงๆ แอร์เย็นฉ่ำ


       โรงแรมใหม่และทันสมัยได้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางย่านตึกเก่าเสื่อมโทรม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าเราอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง ห้องหับสะอาดและใหม่มาก ติดเครื่องปรับอากาศทุกห้องในราคาคืนละ900 กว่าบาทเท่านั้น  มีลิฟท์ให้บริการอีกด้วย หลังจากที่เราได้เก็บกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นเวลาสี่ทุ่มเราต้องหามื้อค่ำกินกันก่อน เพราะไม่ได้ทานอะไรบนเครื่องมาเลย ติดกับโรงแรมมีภัตตาคารชื่อว่า Fish ‘n’ Prawn Family Restaurant ภัตตาคารติดแอร์แบบไม่มังสวิรัติ (Non-Veg) เราได้สั่งข้าวผัด ข้าวหมก และไก่ทอดมากินกันเบาๆ และไม่พลาดที่จะสั่งน้ำผลไม้ปั่นเย็นชื่นใจ ทั้งน้ำมะม่วง น้ำสับปะรด น้ำแตงโม ถูกสั่งมาเพื่อดับกระหาย คืนนี้เราจึงหลับสบายไปอีกคืน

แค่ข้าวผัดกับไก่หมักเครื่องเทศทอดก็อร่อยแล้วจ้า


รอชมตอนต่อไป พาเที่ยวเมืองเชนไน เมืองเอกแห่งรัฐทมิฬนาดู ที่ยังไงก็ดูดีมีเสน่ห์จ้ะ




1 ความคิดเห็น:

  1. เคยไปครั้งนึง เป็นเมืองที่สวยมากครับ
    เคยทำรีวิว เที่ยว เชนไน ไว้ครับ

    https://www.yhibklong.com/2014/04/chennai.html
    https://www.yhibklong.com/2014/04/blog-post_27.html

    ตอบลบ