รถพาเราไปปล่อยที่ปากทางเข้าเขตกำแพงเมืองเก่าอินทรามูรอส
แหล่งท่องเที่ยวมะนิลา รู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่เดิมอีกครั้ง เมื่อ 7
ปีที่แล้ว สถานที่แห่งนี้ทรุดโทรมมาก
ปัจจุบันได้รับการบูรณะปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น
จนทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่น่ากลัวอีกต่อไป เราได้แวะทานอาหารฟาสต์ฟู้ดขื่อดัง Chowking ก่อนที่จะพาเข้าชมโบสถ์ใหญ่แห่งเมืองมะนิลา
มาถึงแล้วและนี่คือทางเข้าประตูเมืองเก่า Intramuros
ในเขตกำแพงเมืองเก่า เราจะเริ่มเห็นตึกและบ้านเรือนยุคอาณานิคมสเปน
Manila Cathedral ที่เราจะเยี่ยมชมหลังจากมื้ออาหารเที่ยงนี้
ร้าน ChowkingกับKFC กลมกลืนไปกับตึกโบราณ
นี่ก็อาคารสถานที่ราชการในเขตอินทรามูรอส
เราสั่งหมี่ผัดแบบสไตล์ฟิลิปปินส์มากิน ที่นี่เรียกว่า Pancit ราคา 120เปโซ จ้า
Intramuros อินทรามูรอส
เป็นเขตเมืองเก่าของสเปนในยุคอาณานิคมที่รอดจากการทิ้งระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 มีกำแพงเมืองสูงโอบล้อมรอบเมือง ภายในมีโบสถ์เก่า 2แห่งคือ Manila Cathedral และ San Augustin Church โบสถ์ซานอากุสติน มีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเก่าแก่ และย่านคาซ่ามะนิลา
(Casa Manila) ที่เป็นบ้านของชนชั้นสูงในยุคอาณานิคม ใครมาเที่ยวฟิลิปปินส์ทั้งที
ไม่ควรจะพลาดชมสถานที่ทั้งสามแห่งนี้
Manila Cathedral จะผ่านไปกี่ปี ที่นี่ก็ยังคงความขลังและงดงามเหมือนเดิม
เหมือนๆจะมีพิธีแต่งงานข้างในยังไม่เสร็จต้องรออีกนิด
รถที่ใช้ประกอบในพิธีแต่งงานพร้อมแล้ว
Manila Cathedral โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 400 ปี
ถ้าได้ถ่ายรูปด้านหน้าจะรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในที่แห่งหนึ่งในยุโรปได้เลย
เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สถาปัตยกรรมแบบสเปน ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีสวยงามและรูปปั้นสลักพระเยซูและพระแม่มารี
วันนี้เรามาตรงกับพิธีแต่งงานภายในโบสถ์พอดี ทำให้ไม่สามารถเดินชมได้ทั่ว
ถึงข้างนอกจะดูเก่าแก่แต่ภายในดูใหม่มาก ไม่เก่าเลย
วันนี้เรามาตรงกับวันที่เค้าจัดพิธีแต่งงานพอดี
รูปปั้นนักบุญปีเตอร์
หลังป้ายนี้เข้าไปจะมีจัดแสดงประวัติความเป็นมาของโบสถ์โดยละเอียด
โบสถ์แห่งนี้กรุกระจกสเตนกลาสสวยงาม
คู่บ่าวสาวที่น่าจะมีความสุขที่สุดในวันนี้
กระจกแก้วแบบสเตนกลาสบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา
ภาพเขียนสีน้ำมันสวยๆ บ่งบอกการเข้ามาของศาสนาคริสต์ที่นี่
รูปเคารพและรูปสลักนูนต่ำภายในโบสถ์งดงามจริงๆ
รูปปั้นพระแม่มารีที่แต่ก่อนเคยเดินเข้าไปแตะรูปพระองค์เพื่อขอพรได้ 
Pieta ที่ให้อารมณ์เสมือนจริงมากๆ
บริเวณด้านข้างโบสถ์มะนิลา
รถม้านำเที่ยวถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่
เราเดินผ่านกลุ่มอาคารเก่าอีกนิดก็จะถึงโบสถ์ซานออกุสตินแล้ว
นี่คืออนุสรณ์สถานเตือนความทรงจำแห่งสงครมโลกครั้งที่2
San Augustin Church โบสถ์ซานอากุสติน
โบสถ์หินที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองมะนิลาอายุมากกว่า 450 ปี
สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1565 เคยถูกไฟไหม้ถึง 2ครั้ง และแผ่นดินไหวอีกหลายครั้ง
ภายในมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับด้านศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคไว้ให้ศึกษา
รวมไปถึงรูปเคารพมากมาย และภายในโบสถ์แห่งนี้เค้าก็จัดพิธีแต่งงานเช่นกัน
เราดีใจมากที่วันนี้โบสถ์เปิด
เพราะเมื่อ7ปีที่แล้วที่เรามาโบสถ์ปิดปรับปรุงทำให้พลาดการเข้าชมไปอย่างน่าเสียดาย
โบสถ์ซานออกุสตินยังไม่ได้เก็บธงหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่
ความเป็นมาของโบสถ์แห่งนี้มีมายาวนานกว่า 450 ปี
ด้วยความที่เป็นไฮไลท์ประจำเมือง เลยทำให้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น
ภายในโบสถ์เค้าจัดพิธีแต่งงานอีกแล้วจ้า
The Power of God love
ภายในโบสถ์มี Gallery ทางด้านพระคริสต์เยอะมาก
การเผยแพร่ศาสนาในยุคที่ยังเป็นชนเผ่าโบราณอยู่เลย
สาส์นรักจากพระผู้เป็นเจ้า
ชุดสวยของบาทหลวงและพระจัดแสดงในตู้กระจก
ภายในโบสถ์ซานออกุสตินดูเก่าแก่กว่าโบสถ์มะนิลามากมาย
หลากหลายอารมณ์ของรูปปั้นและรูปเคารพที่ให้อารมณ์สมจริงมากๆ
พระแม่มารีและพระเยซูคริสต์ในวัยเยาว์
รูปปั้นพระเยซูคริสต์
กำเนิดพระเยซูคริสต์
เดินชมไปเรื่อยๆ ตามห้องภายในโบสถ์ มีห้องให้ชมเยอะมาก
The Last Supper ในตำนาน
โบสถ์แห่งนี้มีห้องจัดแสดงถึงสองชั้นแน่ะ
งานแต่งงานกำลังจะเสร็จสิ้นลง รออีกนิด ก็จะได้ภาพสวยๆ
ตรงกลางโบสถ์มีสวนเล็กๆไว้ให้เดินเล่นด้วย
อีกคู่ที่น่าจะมีความสุขที่สุดในวันมงคลนี้
พอแขกออกไปจนหมดงานก็จะถ่ายออกมาได้ประมาณนี้เลย
ออแกนไม้ประจำโบสถ์
แท่นบูชาประจำโบสถ์
Casa Manila คาซ่ามะนิลา อยู่ใกล้ๆกับโบสถ์ซานออกุสติน
เป็นย่านพักอาศัยของชนชั้นสูงในมะนิลายุคก่อน เป็นบ้านเรือนทรงโบราณ
บางวันก็มีการจัดแสดงวัฒนธรรมชาวสเปนให้ชม ปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ๆ
ตลอดแนวถนนเส้นนี้ รวมไปถึงร้านอาหารพื้นเมืองฟิลิปปินส์ด้วย
ภายใน Casa Manila บ้านโบราณแบบสเปน
ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารและคาเฟ่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น