วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เที่ยวสิงคโปร์ในราคาประหยัด ตอนที่ 5 สิงคโปร์เมืองตื่นสาย

                เมื่อคืนเรานอนหลับๆตื่นๆ ด้วยว่าย่านที่เรานอนเป็นย่านราตรี มีผับบาร์มากมาย เสียงเพลงดังเล็ดลอดมาตามช่องหน้าต่าง พร้อมกับเสียงคนเมาเป็นระยะ พอเช้ามาทุกอย่างเงียบสนิท ผมตื่นเจ็ดโมงกว่าลุกขึ้นมาอาบน้ำ หลายเตียงที่เป็นฝรั่งเสียส่วนใหญ่ยังนอนหลับอุตุ สงสัยพวกเค้าคงกลับมาดึก  เราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงไปข้างล่างไปไขล็อกเกอร์เอาของมีค่าเท่าที่จำเป็นพร้อมกล้องออกมา เราเดินไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมเค้าจัดให้ฟรี เป็นไข่ต้มคนละใบ กาแฟต้องชงเอง และมีขนมปังเตรียมไว้ให้ซึ่งทั้งหมดจะต้องบริการตนเองและล้างจานด้วยตนเองด้วย ห้องกินข้าวมีทีวีให้ดูและอินเตอร์เน็ตให้เล่นฟรี  กว่าร้อยละ90เป็นชาวตะวันตกที่เข้ามาพักทานอาหารเช้าแบบบริการตนเองกันอยู่ บ้างก็นอนเอกเขนกดูทีวี ที่ล็อบบี้มีขายโปรแกรมทัวร์ Universal Studio ในราคาพิเศษรวมตั๋วแลกซื้อของที่ระลึก $68 เราก็สนใจอยู่เพราะราคาถูกกว่าซื้อตั๋วหน้างานซึ่งแพงเกิน $75 แต่พอคิดอีกทีเอาเงินไปช้อปปิ้งดีกว่ามั้ง
Abdul Gafur Mosque

                  เราเดินออกจากที่พักผ่านมัสยิดที่อยู่ใกล้ๆ คือมัสยิด Abdul Gafur สวยแบบเรียบง่าย และเดินผ่านตลาดที่ยังคงหลับเพราะเช้าอยู่ เดินผ่าน Shop house ที่มีสีสันฉูดฉาดอันเป็นเอกลักษณ์ของสิงคโปร์ เราเดินลงใต้ดินที่สถานีลิตเติ้ลอินเดีย เพื่อซื้อตั๋วไปสถานีไชน่าทาวน์ (China Town) ตอนเช้าคนยังไม่แน่นรถใต้ดินกำลังดีเลย เมื่อโผล่ที่สถานีก็จะพบกับซุ้มประตูมังกร สัญลักษณ์ของชุมชนชาวจีน และร้านรวงต่างๆที่จำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับคนจีนทั้งกำไลหยก ผ้าไหมจีน ผลไม้ดอง เหล้าจีน สมุนไพรจีน ฯลฯ คล้ายกับเยาวราชบ้านเรา ของที่ระลึกมีขายมากมายแต่ราคาสูงมาก อาหารจีนหาทานได้หลากหลายที่นี่แต่ราคาสูงกว่าบ้านเราเยอะ  เราเดินผ่านพิพิธภัณฑ์ชุมชนจีน (Chinatown Heritage Center) เค้าเก็บค่าเข้าชมใช้ได้เลย $20 เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์2ชั้นประมาณ3คูหา เราเลยขอบาย ไปเดินดูวัดจีนน่าสนใจกว่าแยะ

ตลาดไชน่าทาวน์ยามเช้า

วัดจีน Buddha Tooth Relic Temple


เราเดินผ่านวัดแขกแห่งเดียวในชุมชนชาวจีน ชื่อว่าวัด Sri Mariamman เข้าไปภายในมีพิธีบูชาองค์ทวยเทพฮินดูพอดี เลยเก็บภาพบรรยากาศงานมา ชาวอินเดียทั้งหลายล้วนแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง หญิงนุ่งห่มสาหรี ชายนุ่งผ้านุ่งบ้างเปลือยท่อนบนกำลังเข้าพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ พ่อแม่บางคนอุ้มทารกมาให้พราหมณ์เจิมที่หน้าผากเพื่อความเป็นศิริมงคล กลิ่นเครื่องหอมที่คนนำมาบูชาหอมฟุ้ง รวมไปถึงกลิ่นกำยานและธูปหอมที่ตลบอบอวล การบูชาองค์เทพที่นี่ซึ่งมีพระพิฆเนศ และพระแม่อุมาเทวีนั้น ห้ามนำของคาวมาถวายดังนั้นจึงมีแต่อาหารพวกผลไม้ กล้วย มะพร้าว ใส่ถาดบูชามา เรานั่งชมพิธีกรรมสักครู่ใหญ่แล้วค่อยเดินออกมา
Sri Mariamman Temple
ผู้คนมายืนดูการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อแห่งวิถีฮินดู


            เราเดินมาถึงวัดจีนที่คิดว่าน่าจะใหญ่ที่สุดในย่านนี้ สร้างแบบสถาปัตยกรรมจีนแบบอาคารสมัยใหม่สูง5ชั้น วัดนี้มีชื่อว่า Buddha Tooth Relic Temple  เราเดินเข้าไปชมความงามภายใน มีชาวจีนนำของมาทำบุญทั้งน้ำมันพืชเพื่อเติมน้ำมันตะเกียง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ภายในมีพิธีกรรมอีกแล้ว คนจีนแต่งกายด้วยชุดดำกำลังยืนพนมมือฟังพระสวดอยู่ในอุโบสถ เราเก็บภาพบรรยากาศภายในสักครู่แล้วค่อยเดินออกมาภายนอก


                ดูเวลาอีกที11โมงแล้ว แต่ท้องยังไม่ส่งสัญญาณหิวเลย เดินผ่านศูนย์อาหารชื่อ Maxwell Center ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารจีนและข้าวมันไก่อร่อย แต่ก็ต้องตัดใจ เพราะร้านยังไม่ค่อยจะเปิดเลย ทั้งที่มันสายมากแล้ว เลยต้องเดินผ่านวัดจีนจะกลับไปที่สถานีใต้ดิน เพื่อที่จะไปเซ็นโตซ่า ระหว่างทางเราผ่านร้านรับซื้อของเก่า เห็นสองสามีภรรยากำลังจัดเรียงกระดาษเพื่อขึ้นตาชั่งอยู่ ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี จากนั้นก็แวะตลาด Chinatown Complex เดินดูอาหารสดพบชาวจีนเดินทางมาจับจ่ายซื้อของไปทำกับข้าวกันมาก ตลาดที่นี่หาของเจอง่ายด้วยว่าจัดเป็นหมวดหมู่สินค้า และไม่มีน้ำเฉอะแฉะให้เสียอารมณ์สักนิด  สายแล้วบางร้านเพิ่งจะเอาของมาวางขาย นี่แหละน้าสิงคโปร์เมืองตื่นสาย ถึงมีคนบอกว่าถ้ามาสิงคโปร์ จงเดินเที่ยวให้ดึกและตะลุยราตรี ตอนเช้าค่อยนอนเพราะไม่ค่อยมีอะไรขาย ให้ตื่นใกล้เที่ยงแทน

 Maxwell Food Court
 ตึกคอนโดมิเนียมทุกแห่งจะต้องติดธงชาติสิงคโปร์
 จุดรับซื้อหนังสือพิมพ์เก่า สองสามีภรรยาช่วยกันทำงานอย่างแข็งขัน
 สองหนุ่ม (เหลือน้อย) กำลังดวลหมากกันอย่างจดจ่อ
ร้านรวงล้วนตกแต่งด้วยสีแดงเพื่อความเฮง

ตอนหน้าเรามาตะลุยเกาะเซนโตซ่ากัน อย่าพลาดนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น