วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แบกเป้เที่ยวอินโดนีเซีย แบกเป้เที่ยวจาการ์ต้า ก่อนพาบินลัดฟ้าสู่เมืองยอร์กยาการ์ต้า National Meseum

แบกเป้เที่ยวอินโดนีเซีย แบกเป้เที่ยวจาการ์ต้า ก่อนพาบินลัดฟ้าสู่เมืองยอร์กยาการ์ต้า (Jakarta- Yokyakarta)

                ตื่นเช้าอย่างสดชื่นห้องพักของ Hotel Magnolia ดีมากๆ หลับไปอย่างสบาย เสียอย่างเดียวที่ทางโรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้บริการ ไม่เช่นนั้นพวกเราคงอิ่มสบายท้องไม่ต้องเดินลากกระเป๋าหลังจากออกจากที่พักเพื่อหาอาหารเช้าเข้าท้อง
                อาหารเช้าวันนี้ในย่านที่เราพักอยู่นั้นมีทางเลือกไม่มากนัก พวกเราเลยลงความเห็นว่าขอทานแบบง่ายๆก็แล้วกัน คือถ้าเจอร้านถูกใจก็หยุดแวะรับประทานได้เลย เราเดินมาเจอร้านอาหารข้างทางที่ไม่เป็นเพิงพอวางใจเรื่องความสะอาดได้ หน้าร้านเป็นรถขายก๋วยเตี๋ยว อาหารที่ขายเป็นรถเข็นที่นี่เขาเรียกว่า วารุง (Warung) ความสะอาดก็ขอให้ใช้สายตาสังเกตเอาเอง เช้านี้พวกเราเลยสั่งอาหารทั้งก๋วยเตี๋ยวทั้งข้าวราดแกงแบบพอประทังให้หายหิวไป ความอร่อยเลิศรสคงไม่ต้องเอ่ยถึงกันอีก เพราะค่าอาหาร 3จานรวมกัน 40,000 รูเปียห์เอง
อิ่มอร่อยกับบะหมี่ยามเช้าข้างทาง 
ข้าวแกงพื้นบ้านแบบอินโดนีเซียนก็มี

           ทานพออิ่มแล้วก็เรียกรถแท็กซี่เพื่อไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (National Museum) เพื่อชมประวัติความเป็นมาของประเทศอินโดนีเซียเสียหน่อย พิพิธภัณฑ์นี่อยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก อยู่ฝั่งตรงข้ามกับอนุสรณ์สถานที่มียอดสูงเป็นจุดชมวิวของกรุงจาการ์ต้านั่นแหละ วันเสาร์รถค่อนข้างบางตาค่ารถแท็กซี่จึงถูกกว่าเมื่อวานมาก
National Museum
ตั๋วเข้าชม 10,000 รูเปียห์ คิดเป็นเงินไทย 35 บาท

                National Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะมากกว่า 140,000 ชิ้นงาน ซึ่งมีทั้งรูปปั้นแกะสลักหินทราย หินภูเขาไฟ งานสำริด งานศิลปะของชาติพันธุ์ต่างๆตามหมูเกาะน้อยใหญ่ของประเทศ  โบราณวัตถุจากจีน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ฯลฯ เดิมเคยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศอาเซียน แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว ของที่จัดแสดงส่วนใหญ่จะถูกขุดค้นพบขึ้นในสมัยที่เป็นอาณานิคมชาวดัตช์  ถ้าสนใจเข้าชมก็บอกรถแท็กซี่ได้ว่าตั้งอยู่บนถนน Medan Merdeka Barat ตรงกันข้ามกับ Merdeka Monument ค่าธรรมเนียมเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติท่านละ 10,000 รูเปียห์
รูปปั้นหินโบราณจัดแสดงกลางสวนในพิพิธภัณฑ์ 
ภายในเต็มไปด้วยคณะครูและนักเรียนมาทัศนศึกษา 
ไกด์ท้องถิ่นอาสาอธิบายความเป็นไปภายในพิพิธภัณฑ์ 
แบบบ้านต่างๆของชนพื้นเมือง

มีห้องจัดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย ด้วยนะ


      เรามีเวลาเดินชมถึงแค่เที่ยงเพราะจะต้องนั่งรถแท็กซี่เพื่อไปยังสนามบินซูการ์โนฮัตตาอีกครั้งเพื่อขึ้นเครื่องไปลงที่เมืองยอกยาการ์ต้า ก่อนจากลาเมืองจาการ์ต้าเราขอชื่นชมในความซื่อสัตย์ของรถแท็กซี่ที่นี่เสียหน่อย เมื่อเราบอกให้กดมิเตอร์เขาก็ยอมกดแต่โดยดี มีเพียงรถแท็กซี่ที่รับเรามาจากสนามบินยามวิกาลเพียงรายเดียวเท่านั้นที่คิดอัตราเหมาจ่าย อยากให้รถแท็กซี่ที่อินเดียและฟิลิปปินส์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง นักท่องเที่ยวแบกเป้ทั้งหลายที่ไปเยือนกระเป๋าจะได้ไม่ฉีก
ติ่มซำของนึ่งพื้นเมืองหน้าพิพิธภัณฑ์ กับพวกเรารอเรียกแท็กซี่ 

แท็กซี่ที่นี่กลับสะกดเป็นภาษาบาฮาซาว่า Taksi 

                รถแท็กซี่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมงก็เดินทางมาถึงสนามบิน เสียค่าโดยสารไปเพียง 90,000 รูเปียห์เท่านั้น อาหารการกินที่สนามบินซึ่งพวกเราต้องทานก่อนขึ้นเครื่องก็มีให้เลือกไม่มากนัก บางอย่างกลัวทานแล้วจะไม่อร่อยพวกเราเลยตัดสินใจเลือกทานร้านไก่ทอด CFC คู่แข่ง KFC นั่นแหละ สั่งมาทานกันคนละชุด จากนั้นจึงค่อยเดินไปดูของขายที่สนามบิน ซึ่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศคืออาคาร Terminal 3 ดังนั้นร้านค้าจึงมีแต่สินค้าพื้นเมืองให้ช้อปซึ่งราคาสูงลิ่วต่อรองไม่ได้
ภายใน Terminal 3 ของท่าอากาศยานซูการ์โนฮัตตา 
เสื้อผ้าบาติกพื้นเมืองราคาแพงมาก 
Mega Project ของท่าอากศยานอินโดนีเซียทั้งหมด

     มาทานโดนัทเจ้าอร่อยที่เราเคยรีวิวไว้จากทริปเมดานครั้งที่แล้วดีกว่า เจ้าโดนัทที่ว่าคือร้าน เจ.โค.โดนัท (J. Co. Donut) ที่ยังคงความอร่อยไม่เสื่อมคลาย และยังคงโปรโมชั่นเดิมคือ สั่งเครื่องดื่มใดๆก็ได้1แก้ว เค้าจะแถม โดนัทรสOriginal 1ชิ้น ฟรีๆ
                เมื่อเครื่องจวนจะออกยามบ่ายสาม อย่าลืมเตรียมค่าภาษีสนามบินภายในประเทศด้วย ท่านละ 40,000 รูเปียห์ ซึ่งแต่ละสนามบินจะเก็บค่าภาษีสนามบินไม่เท่ากันจึงไม่มีอัตราตายตัว ขอให้นักแบกเป้ทั้งหลายได้เตรียมกันเงินส่วนหนึ่งมาเพื่อการนี้ด้วยจะช่วยให้ปลอดภัยในวันที่เดินทางกลับประเทศไทย
โดนัท เจ.โค. และโยเกิร์ตปั่น เจ.คูล. (J. Cool)

ตอนหน้าพาชมเมืองแห่งอารยธรรมโบราณ ยอกยาการ์ต้า (Yorkyakarta)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น