วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เที่ยวคุณหมิงตามใจเพื่อนฉัน ส่งท้ายคุณหมิงที่จัตุรัสจินบี้ Jinbi Square


        มาเที่ยวคุณหมิงคราวนี้เรายังไม่ได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าคุณหมิงกันเลย หลังจากที่เราขึ้นรถบัสสายเดิมจากอุทยานป่าหินกลับไปยังตัวเมืองคุณหมิงแล้ว (ค่าโดยสารคนละ34หยวน) เราเดินไปที่ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติเพื่อซื้อตั๋วรถไฟฟ้าเข้าเมืองคุณหมิงกัน ตู้กดบัตรใช้งานง่ายมีเมนูภาษาอังกฤษ ค่ารถโดยสารเข้าเมือง ราคาเพียง 3 หยวนเท่านั้น  จากสถานี Eastern Bus ไปยังสถานี Donfeng จากนั้นค่อยต่อรถTaxi ไปลงยังถนนคนเดิน ค่ารถ 13หยวน


เราเริ่มต้นการเดินทางกันที่ Eastern Bus Station
มุมตู้หยอดซื้อตั๋ว มีหลายตู้ให้เลือกจิ้ม 
ก่อนจิ้มเลือกสถานี อย่าลืมเลือกเปลี่ยนเป็นเมนูภาษาอังกฤษก่อนนะ 
หยอดตู้เสร็จก็เดินผ่านประตูอัตโนมัติได้เลย 

ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้วจ้า 
ในวันปีใหม่ก็ยังมีคนลากกระเป๋าเดินทางกันเยอะเลย 
ภายในรถคนว่างเชียว นั่งได้ตามใจชอบ

        ประตูม้ามอง ประตูไก่มรกต (golden Horse and Jade Rooster Archways) เป็นประตูวางคู่กันในย่านถนนคนเดิน Jinbi Square สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง อายุมากกว่า 400ปี วางตัวขนานตามแนวทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ว่ากันว่าถ้าวันไหนพระอาทิตย์และพระจันทร์ขึ้นมาเจอกันบนท้องฟ้า เงาของประตูทั้งสองจะเหลื่อมกัน แต่วันนี้เรามาไม่ทัน ตะวันชิงตกดินไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ตอนนี้เรามาลงย่านถนนคนเดินจินบี้ทันสมัยในคุณหมิง 
บ้านแบบสไตล์ร่วมสมัยก็มีให้เห็นบนถนนสายนี้นะ 
ประตูไก่มรกต ช่วงหัวค่ำยังสาดไฟสีเงินอยู่ 
ถัดออกไปด้านหน้าจะเป็นประตูม้าทอง 
ประตูม้าทอง ทองอร่ามมากๆ
สังเกตง่ายๆ บนบานประตูจะมีม้าวิ่งอยู่นะครับ 
ป้ายชื่อประตูม้าทอง พร้อมลวดลายบนบานประตูงดงาม 

       บริเวณถนนคนเดินเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารจีนและอาหารนานาชาติให้ลองชิมรส และเมื่อเดินลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยจะเจอกับร้านขายชา และของฝากคุณหมิงมากมาย แต่ราคาไม่ถูกนัก โดยของฝากขึ้นชื่อของเมืองคุณหมิงคือ ชาอู่หลง ชามะลิ มีให้เลือกหลายเกรดมาก ยิ่งแพงจะยิ่งหอม และขนมเปี๊ยะไส้กุหลาบที่แพ็คเป็นห่อขาย ที่นี่ทำอร่อยมากจ้า 
เครื่องยาจีนมีอะไรบ้าง เราไม่สันทัดเลย 
ร้านขายชาที่นี่ ทำแพคเกจสวยงามมาก 
ร้านเล็กๆขายน้ำชาน่านั่งเชียว 

ร้านขายของที่ระลึกหลายร้านสร้างแบบจีนโบราณ 
ชายูนนานเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อมาก หากใครได้มาเที่ยวคุณหมิงควรซื้อนะ 
ของที่ระลึกอย่างอื่นก็มีให้เลือกซื้อเลือกหานะ
คราวนี้เราลองมาชำแหละขนมเปี๊ยะไส้ดอกไม้ที่หอมอร่อยขึ้นชื่อกัน
เมื่อเราเปิดห่อขนมเปี๊ยะไส้กุหลาบเพื่อลองชิมดู 
ไส้เป็นกลีบกุหลาบ กลิ่นนี้หอมลอยเตะจมูกเราเลย 

      เราเดินซื้อของฝากจากคุณหมิงไปให้คนทางบ้านจนท้องร้องเลยลองแวะชิมร้านอาหารที่ทันสมัยร้านหนึ่ง ลองสั่งข้าวผัดแบบสไตล์ยูนนานมากิน ปรากฏว่ารสชาติแซ่บมาก เขาผัดข้าวใส่พริกแห้งแล้วใส่เนื้อย่างมาเป็นไม้แบบสไตล์หมาล่าด้วย เที่ยวคุณหมิงมาหลายวันมื้อนี้นับเป็นมื้อที่แซ่บที่สุดตั้งแต่มาแล้ว ทานสองคนรวมแล้ว 108หยวน
ร้านนี้อยู่ริมถนนคนเดิน บรรยากาศน่านั่งเชียว 
ข้าวผัดที่นี่รสชาติจัดจ้าน เผ็ดพอามควรเลย จานละ28หยวน 
คนกินแน่นร้านเลยทีเดียว ราคาน่าคบนี่นา 
ปลาทอดคล้ายปลาตาเดียว ตัวละ 28หยวน
ตุ๊กตาแพนด้า ราคาน่ารักเชียว 
เครื่องเงินของจีนราคาไม่ถูกนัก 
ตุ๊กตาชนเผ่าต่างๆ ของมณฑลยูนนาน 
รองเท้าลายชนเผ่าลวดลายน่ารัก มีแต่ของผู้หญิงนะจ๊ะ


งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เราต้องเดินทางกลับไปที่พักเพื่อขนกระเป๋าเดินทางไปสนามบินคุณหมิง แต่อนิจจาขากลับเราสองคนเรียกรถ Taxi ไม่ได้เลย แย่งรถไม่ทันคนจีนเรียก คนออกมาเที่ยวนอกบ้านกันเยอะมาก สุดท้ายเลยต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินกลับที่พักเพราะกลัวว่าจะขึ้นเครื่องไม่ทัน ระยะทางไม่ไกลหรอก 2.5กิโลเมตรเอ๊ง  แต่แล้วก็ไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายไปสนามบินคุณหมิง เลยต้องนั่งรถ Taxi ไปสนามบินแทน ราคาค่าโดยสาร 92 หยวน
ประตูไก่มรกต สัญลักษณ์ก็คือไก่ ตกดึกเปลี่ยนสีไฟเป็นสีทอง 
มาดูลวดลายของประตูไก่มรกตกันชัดๆ 
เขาว่าถ้ามาเดินที่นี่ควรเดินลอดประตูให้ครบทั้งสองประตู 
ประตูไก่ลวดลายงดงามไม่แพ้ประตูม้าทองเลย
ร้านค้าริมถนนคนเดิน สร้างกลมกลืนไปกับบรรยากาศ 
พอเริ่มดึก คนก็หายไปเยอะเลย 
ด้วยความที่ไม่มีรถ คนส่วนใหญ่เลยเดินกลับกัน

                เที่ยวบิน Airasia ออกจากสนามบินคุณหมิงประมาณตีสองมาถึงดอนเมืองประมาณตีสี่ เรามีเวลาเดินเล่นอยู่ที่สนามบินได้ไม่นาน เพราะว่ากว่าจะหารถมาสนามบินได้ในช่วงเทศกาลก็ใช้เวลามากโขแล้ว ดังนั้นใครจะมาเที่ยวจีนช่วงเทศกาลปีใหม่สากลหรือปีใหม่จีนก็ตาม ขอให้เผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินกันด้วยนะครับ เราสัญญาว่าคราวหน้าถ้ามาลงคุณหมิงอีกจะนั่งรถต่อไปยังเมืองลี่เจียงและแชงกรีล่าต่อเลย ทริปจีนสั้นๆ ทริปนี้ใช้เวลาได้คุ้มค่ามากใครมีเวลาน้อยก็ลองลอกทริปไปใช้กันดูนะครับ
ปิดท้ายทริปนี้กันด้วยโยเกิร์ตพร้อมดื่มของจีน 
ได้เวลากลับบ้านกันในวันปีใหม่แล้ว 
ขากลับคนนั่งหลวมๆ แล้วทริปหน้าเจอกันใหม่ที่บาหลีนะครับ





วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

เที่ยวคุณหมิงตามใจเพื่อนฉัน วันหนึ่งเราเดินเข้าถ้ำจิ่วเซียง (Jiuxiang Cave)


       โปรแกรมเที่ยวคุณหมิงเช้านี้เราเกิดคำถามในหัวว่าระหว่างถ้ำจิ่วเซียง (Jiuxiang Cave) กับอุทยานป่าหิน (Stone Forrest) เราจะไปที่ไหนก่อนดี กว่าจะตัดสินใจได้เราทั้งสองคนก็ตื่นสายมากและออกจากโรงแรมช้ามากทำให้โอกาสไปเที่ยวในที่ต่างๆ น้อยลงด้วย วันนี้จะได้ลองนั่งรถไฟใต้ดินคุณหมิงด้วย แต่พอเราตื่นสายเลยต้องนั่งรถแท็กซี่มาลงที่สถานีรถ Kunming Eastern Bus Station แทน ค่าแท็กซี่ไม่แพงนะ  22 หยวนเอง
สถานีนี้เป็นสถานีที่ใหญ่และทันสมัยมากแห่งหนึ่ง 
ไม่ต้องกลัวหลงเพราะมีป้ายบอกชัดเจนว่า ป่าหินไปทางไหน


       หลังจากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วรถบัสไปป่าหิน ซึ่งที่สถานีจะมีเขียนไว้ชัดเจนว่าช่องนี้ไปอุทยานป่าหิน (Stone Forrest) ค่ารถขาไปคนละ 34 หยวน ตอนเดินออกไปขึ้นรถไม่ต้องกลัวหลงคัน เพราะรถที่ไปป่าหินจะติดภาพแบนเนอร์ชัดเจน ใช้เวลาเดินทางราวชั่วโมงเศษก็ถึงจุดซื้อตั๋วเข้าชมอุทยานป่าหินคุณหมิง อุทยานระดับ 5ดาว เรามาถึงที่นี่แดดจ้าใช้ได้เลย จะเข้าไปชมข้างในต้องซื้อตั๋วที่รวมค่ารถรางข้างใน เพราะพื้นที่อุทยานกว้างใหญ่มาก
ภายในสถานีรถบัสสายตะวันออก สายนี้จะวิ่งเฉพาะเส้นทางสายตะวันออก
ภายในสถานีกว้างใหญ่มากและผู้คนน้อย

ถ้าเดินออกจากเกทแล้วไม่ต้องกลัวหลง เพราะข้างรถมีภาพชัดเจน

           แต่ทันใดนั้นมีสียงเล็กๆที่มีพลังมากพอที่ทำให้เราวอกแวก นั่นคือเสียงที่ถามว่าไปถ้ำจิ่วเซียงมั้ย เรามีรถบริการให้คุณ ไปที่นั่นก่อนแล้วค่อยกลับมาขึ้นรถกลับเข้าเมืองที่นี่ พอเราสอบถามข้อมูล ไม่มีรถบัสไปถ้ำจิ่วเซียงโดยตรง ถ้าไปป่าหินก่อนไปถ้ำ ก็จะมืดเกินไป ไม่มีรถขากลับ สุดท้ายเราก็ยอมรับข้อเสนอ เนื่องจากเพื่อนอยากไปเข้าถ้ำมากกว่าชมป่าหิน
ป้ายโฆษณารถบัสที่เดินทางไปป่าหิน 
แผนผังป่าหินคุณหมิงจะเห็นว่ามันกว้างใหญ่มาก 
และนี่คือโปสเตอร์ภาพถ้ำจิ่วเซียงที่ทำให้เราวอกแวก
ป่าหินที่เราเกือบจะได้ไปชมในทริปนี้

      เราตกลงราคาค่ารถแบเหมาๆ ทั้งไปและกลับในราคา 90 หยวน รถใช้เวลาเดินทางประมาณ 30นาที เดินทางขึ้นไปทางทิศเหนือจากเมืองคุณหมิงไปจนถึงตอนกลางของมณฑลยูนนาน ถ้ำจิ่วเซียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่มีอายุมากกว่า 600 ล้านปี บริเวณด้านล่างของถ้ำมีลำธารไหลเย็น มีทางให้เดินง่ายๆ ไม่ต้องกลัวน้ำท่วมถ้ำแบบที่เป็นข่าวดังในประเทศไทย
ความสวยงามระหว่างทางไปถ้ำจิ่วเซียง มีเขื่อนขนาดยักษ์อยู่ด้านล่าง 
รถนำเที่ยวถ้ำจิ่วเซียงที่ดักเราอยู่ตรงทางเข้าอุทยานป่าหิน 
มื้อกลางวันหนีไม่พ้นก๋วยเตี๋ยวน้ำอีกแล้ว
รถตู้ขายอาหารพวกของกินเล่น เหมือนfood truck บ้านเราเลย 
เอาล่ะได้เวลาไปซื้อตั๋วเข้าชมถ้ำกันแล้ว

        ถ้ำจิ่วเซียง (Jiuxiang Cave) เป็นอุทยานแห่งชาติระดับ 4ดาว ค่าเข้าชมถ้ำ รวมค่ากระเช้าแล้ว 90หยวน ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง เนื่องด้วยมีฉากที่สวยงามทั้งภายนอกและภายในอยู่หลายจุด จะสวยงามขนาดไหนนั้น เราลองมาดูกันเลย
เอาล่ะเตรียมเงินมาคนละ 90หยวนนะ ไกด์กล่าว 
ตั๋วครบชุดนี้จะต้องแสดง2ครั้ง คือ ตอนที่ผ่านประตูแรก กับตอนนั่งกระเช้าลอยฟ้า 
มาดูกันซิว่าถ้ำนี้เป็นฉากในหนังเรื่องอะไรบ้าง 
แผนผังจุดไฮไลท์ต่างๆในถ้พ ดันไม่มีภาษาไทยซะนี่ 

       จุดเริ่มต้นของการเที่ยวถ้ำคือจะต้องลงลิฟท์แก้วไปยังชั้นล่างสุดของเขาก่อน ลิฟท์แก้วที่นี่สร้างติดกับริมหน้าผา ด้านล่างมีลำธารเชี่ยวกรากไหลเย็นผ่านตลอดทั้งปี เสียงธารน้ำกระทบหินผาดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ธรรมชาติได้สร้างสรรสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้สวยงามจับใจจริง 
ลงลิฟท์แก้วไปข้างล่างจะต้องรอคิวยาวนิดนึง ลิฟท์ตัวเล็ก 
ป่าไม้บริเวณถ้ำจิ่วเซียงอุดมสมบูรณ์มาก 
ถ้ำจิ่วเซียงเป็นถ้ำที่มีทั้งน้ำตกบนดินและลำธารใต้ดิน  
ลงมาถึงข้างล่างแล้ว เราแค่เดินตามทางไปเรื่อยๆ
มันลึกมากจนแทบไม่กล้าชะโงกหน้าลงไปมองเลย


      ทางเข้าถ้ำเดินได้แบบสบายๆ ทางการจีนทำทางไว้ดีมาก เราเดินลัดเลาะไปตามโตรกผาเรื่อยๆ จนถึงภายในถ้ำ จะมีโถงใหญ่ๆ ที่เขาบอกว่าเป็นลานสิงโต เราก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าเป็นสิงโตได้อย่างไร ด้านบนมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่แสดง หินแร่ธรรมชาติต่างๆ ไฮไลท์อยู่ที่เห็ดหลินจือขนาดยักษ์ และมีของที่ระลึกที่ทำจากหินขายด้วย เป็นงานฝีมือราคาแพง
ทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะไปตามโตรกผา ใช้เวลาเดินพอสมควรเลย 
เริ่มเข้าสู่ที่มืดแล้ว ข้างในมีไฟส่องสว่างไม่ต้องกลัว 
ทางเดินที่เขาทำขึ้นกลมกลืนไปกับถ้ำเลย  
ลายอุ้งตีนหมีนี่เกิดจากเลเซอร์ฉายลงมานะจ๊ะ
บริเวณโถงสิงโตเป็นจุดพักขาของเราได้เป็นอย่างดี 
รูแสงสว่างที่มีอยู่รูเดียวภายในจุดนี้ 
ของที่ระลึกพวกหินแกะสลักพวกนี้ขายกันราคาไม่ถูกนะ 
ซากฟอสซิลขายแพงมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงมั้ย 
จุดแสดงหินที่มีลวดลายแปลกๆ แตกต่างกันไป  
นี่ไงเห็ดหลินจือขนาดยักษ์ที่เป็นไฮไลท์ของห้องนี้


          ภายในถ้ำก็มีแผนที่ให้เดินเช่นเดียวกับเขาซีชาน ต้องวางแผนการเดินให้ดี เพราะถ้าเราเดินไปที่หนึ่ง จะกลับมายังอีกที่หนึ่งนั้นทำได้ยาก ไฮไลท์เด็ดๆ รอเราอยู่อีกสามจุด คือสะพานไม้เดินข้ามเขา น้ำตกคู่รัก ธารขั้นบันไดและปราสาทเทพนิยาย
พอเดินออกมาสุดโถงแล้ว เราก็จะเจอกับธารน้ำเชี่ยวอีกครั้ง 
น้ำไหลเชี่ยวไม่แพ้กับตอนน้ำเข้าเลย 
สะพานไม้ที่ทุกคนจะต้องเดินข้ามไปยังถ้ำอีกคูหาหนึ่ง 
เดินข้ามแล้วจะต้องเดินขึ้นเขาไป

    จุดที่คนมาถ่ายรูปเยอะที่สุดเห็นจะเป็นน้ำตกคู่ภายในถ้ำ ซึ่งปกติแล้วน้ำตกทั่วไปจะมีสายเดียว แต่ในถ้ำนี้มีสองสาย คู่รักที่เดินทางมาต่างนิยมมาถ่ายรูปคู่กันที่มาก มากเสียจนมีการกั้นมุมที่ถ่ายออกมาได้สวยที่สุดไว้ให้สำหรับคนที่ใช้บริการถ่ายภาพของรัฐบาลจีนเท่านั้น

นี่แหละเจ้าน้ำตกคู่ในตำนานที่ใครๆมาก็ต้องถ่ายรูปที่นี่ 
ว่าแล้วเราก็ขอถ่ายกับเค้าบ้างซักแชะ 
ธารน้ำเป็นชั้นๆคล้ายขั้นบันได เสียดายที่น้ำไหลน้อย
ถ้ามองจากข้างบนจะคล้ายกับนาขั้นบันไดเลย

      เดินมาจนสุดทางออกจะเจอกับปราสาทเทพนิยาย จุดนี้จะมีบริการถ่ายวีดีโอมัลติมีเดียด้วย มีชุดให้แต่งตัวพร้อมฉากประหนึ่งว่าเรากำลังเหาะเหินเดินอากาศแบบนั้นเลย ไม่ได้ไปสอบถามราคานะ แต่คาดว่าน่าจะแพงเอาการอยู่ พอถ่ายทำเสร็จเราก็รับไฟล์คลิปกลับบ้านไปลง Social Media ได้เลย บริเวณปากทางออกมีบริการเกี้ยวหามด้วยสำหรับคนที่เดินไม่ไหว เพราะต้องเดินเท้าขึ้นไปตามถ้ำประมาณ 1กิโลเมตร หลายคนที่เข่าขาไม่ดีเลยเลือกใช้บริการนี้ เพื่อนฉันเลือกใช้บริการนี้ พอสอบถามเลยได้ความว่า ตลอดทางที่เขาแบกเกี้ยวขึ้น เขาจะบ่นว่าหนักแล้วพยายามขอทิปเรื่อยๆ เบ็ดเสร็จก็ร่วมพันบาท
มุมถ่ายภาพวีดีโอที่คนจีนส่วนใหญ่ชื่นชอบ 
มีฉากจำลองให้เลือกหลากหลายรูปแบบให้กับลูกค้า 
ไม่ต้องออกแรงอะไรมากเลย แค่แอ็คชั่นตามสไตล์ของเราเอง 
เสร็จแล้วก็รอรับไฟล์ หรือจะให้เค้าอัพโหลดวีดีโอให้เลยก็ได้ 
หินงอกนี้คล้ายปราสาทเทพนิยายมั้ยล่ะ

        ขากลับออกจากถ้ำแล้วทุกคนจะต้องไปลงกระเช้าห้อยขาเพื่อกลับลงไปด้านล่าง เป็นครั้งที่สองแล้วที่จะได้นั่งกระเช้าห้อยขา คราวนี้วิวสวยงามไม่มีเมฆหมอกมาบังความงดงามอีกต่อไป กระเช้าไม่น่ากลัวสำหรับเราอีกต่อไป ลงมาด้านล่าง รถรับจ้างรอรับเราอยู่เพื่อนำไปส่งที่อุทยานป่าหิน พอถึงที่หมายเขาบอกว่าอุทยานยังไม่ปิด ยังมีเวลาเดินอีกชั่วโมงครึ่ง เพราะที่นี่ปิด 17.30 น. แต่เราไม่ไปป่าหินต่อแล้ว เราจะกลับเข้าเมืองไปถ่ายรูปจัตุรัสประตูม้าทอง ประตูไก่มรกตต่อ
โชคดีมากที่ข้างนอกมีที่นั่งพักให้สูดอากาศ เพราะข้างในเดินไปนานๆแล้วร้อนมาก 
แล้วเราก็ต้องไปต่อคิวเพื่อลงกระเช้ากลับไปยังจุดเริ่มต่นนั่นแหละ 
แผนที่บอกทางเดินของกระเช้าซึ่งตัดผ่านป่าของเขาลูกนี้
ได้เวลานั่งห้อยขาอีกรอบแล้ว คราวนี้ใช้เวลาแค่ 5นาที 
เป็นเวลา5นาทีที่คุ้มค่ามาก ท้องฟ้าวันนี้สดใสมากจ้า 
ป่าไม้บนเขาลูกนี้อุดมสมบูรณ์ดีมาก เขียวทุกมุมเลย

ตอนหน้าจะพานั่งรถไฟฟ้ากลับเข้าเมืองเพื่อปิดฉากทริปคุณหมิงกับประตูเมืองกันนะจ๊ะ