ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับประเทศอินเดีย
อินเดียประเทศที่กว้างใหญ่ที่สุดของเอเชียใต้ ซึ่งประกอบไปด้วย ศรีลังกา เนปาล ภูฏาน มัลดีฟส์ บังกลาเทศ และปากีสถาน อินเดียมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับรวงผึ้ง มีพื้นที่ทั้งหมด 3.3ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ7ของโลก พรมแดนทิศเหนือจรดประเทศจีน เนปาลและภูฏาน ทิศใต้จรดประเทศศรีลังกา ทิศตะวันออกจรดประเทศพม่าและบังกลาเทศ ทิศตะวันตกจรดประเทศปากีสถานและอัฟกานิสถาน
ลักษณะภูมิประเทศ
ทางตอนบนจะเป็นเขตเทือกเขา เป็นภูเขาใหญ่ๆวางตัวสลับซับซ้อนสูงและมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยๆ รวมไปถึงเขตเทือกเขาหิมาลัยและคาราโครัม อากาศที่นี่จะหนาวเย็น ซึ่งครอบคลุมรัฐสิกขิม (Sikkim) รัฐจัมมูและแคชเมียร์ (Jammu&Kashmir) เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคา ยมุนา และแม่น้ำสินธุในภาคกลางและภาคตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่รัฐพิหาร (Bihar) รัฐโอริสสา (Orissa) รัฐเบงกอลตะวันตก (West Bengal) รัฐอุตรประเทศ (Ultar Pradesh)บริเวณนี้จะมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดเป็นแหล่งเพาะปลูก เขตทะเลทรายทางตะวันตกของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่รัฐราชาสถาน (Rajasthan) รัฐปัญจาบ (Punjab ) อากาศจะเย็นและแห้งแล้ง เขตคาบสมุทรภูเขารูปโต๊ะทางตอนใต้ของประเทศครอบคลุมพื้นที่รัฐกัว (Gao) รัฐทมิฬนาดู (Tamil Nadu) รัฐอันตระประเทศ (Andrapradesh)อากาศค่อนข้างร้อนและฝนตกชุก
ลักษณะภูมิอากาศ
ภูมิอากาศมีสภาพภูมิอากาศแตกต่างกันอย่างมาก เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่ตอนเหนืออยู่ในเขตหนาว ขณะที่ตอนใต้อยู่ในเขตร้อน ทางเหนือมีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน คือแม่น้ำสินธุและคงคา จึงอุดมสมบูรณ์กว่าตอนใต้ ซึ่งมีแต่แม่น้ำสายสั้นๆ เราสามารถแบ่งสภาพภูมิอากาศของอินเดียออกได้เป็น 4 ฤดูดังนี้
1 ฤดูหนาวเริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูนี้เป็นหน้าท่องเที่ยวของอินเดียเค้า เพราะอากาศจะเย็นสบายที่สุด ถ้าไปตอนเหนืออาจจะหนาวไปนิด อุณหภูมิจะเฉลี่ยอยู่ที่4-23 c ในตอนบน ส่วนตอนล่างจะอยู่ที่ 12-30 c
2 ฤดูร้อนเริ่มต้นเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ช่วงนี้อากาศจะร้อนและแห้งแล้งมาก ใครไม่ชินหากไปเที่ยวในฤดูร้อนต้องระวังเรื่องความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มสักนิด เพราะแมลงวันจะเยอะมาก อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่25-40 c ใครไปเที่ยวในฤดูนี้ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมที่จะทนกับคลื่นความร้อน
3 ฤดูฝนเริ่มต้นเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ช่วงนี้ฝนจะตกชุดทั่วประเทศอินเดีย เป็นหน้าโลว์ซีซั่น นักท่องเที่ยวจะน้อยเดินทางไปไหนจะเฉอะแฉะแต่ฝุ่นจะน้อยหน่อย เป็นฤดูเพาะปลูกมองไปทางใดก็จะเป็นสีเขียว
4 ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน ช่วงนี้ฝนจะตกน้อยลง ทางตอนบนของประเทศใบไม้จะเปลี่ยนสีและทยอยร่วงจนหมดต้น เป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต
ประชากรเชื้อชาติและศาสนา
มีประชากรมากกว่า1050 ล้านคน มากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจากประเทศจีน เมืองหลวงคือ กรุงนิวเดลี (New Delhi) เมืองสำคัญ มุมไบ (Mumbai) เป็นศูนย์กลางทางการค้า การเงิน และการคมนาคม เป็นเมืองท่า สำคัญและเป็นแหล่งผลิตภาพยนตร์ฮินดีที่ใหญ่ที่สุด บังกาลอร์ (Bangalore) เป็นเมืองศูนย์กลางของอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อิเล็กทรอนิกส์ การบินและ อวกาศ เจนไน (Chennai)เป็นศูนย์กลางธุรกิจในภาคใต้ของอินเดีย อุตสาหกรรมหลักคืออุตสาหกรรมรถยนต์ กัลกัตตา (Kolkata) เป็นเมืองหลวงเก่าของอินเดีย และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2
ประชากรประกอบด้วย เชื้อชาติ อินโด-อารยัน ร้อยละ 72 ดราวิเดียน ร้อยละ 25 มองโกลอยด์ ร้อยละ 2 และอื่น ๆ ร้อยละ 1
ภาษาภาษาฮินดี (Hindi)เป็นภาษาที่ใช้โดยประชาชนส่วนใหญ่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในวงราชการและธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีภาษาท้องถิ่นอีกนับร้อยภาษา แต่ที่ใช้กันมากมี 14 ภาษา อาทิ อูรดู (Uradu) เตลูกู เบงกาลี (Bengali) มาราธี ทมิฬ (Tamil) กุจราดี และปัญจาบี (Punjabi) คำทักทายแบบกลางๆ ภาษาฮินดี ให้ทักทายว่า “นมัสเต”
ศาสนา ฮินดู ร้อยละ 81.3 มุสลิมร้อยละ 12 คริสต์ร้อยละ 2.3 ซิกข์ร้อยละ 1.9
อื่น ๆ (พุทธ เชน และนาซิ) ร้อยละ 2.5
ประชากรประกอบด้วย เชื้อชาติ อินโด-อารยัน ร้อยละ 72 ดราวิเดียน ร้อยละ 25 มองโกลอยด์ ร้อยละ 2 และอื่น ๆ ร้อยละ 1
ภาษาภาษาฮินดี (Hindi)เป็นภาษาที่ใช้โดยประชาชนส่วนใหญ่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในวงราชการและธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีภาษาท้องถิ่นอีกนับร้อยภาษา แต่ที่ใช้กันมากมี 14 ภาษา อาทิ อูรดู (Uradu) เตลูกู เบงกาลี (Bengali) มาราธี ทมิฬ (Tamil) กุจราดี และปัญจาบี (Punjabi) คำทักทายแบบกลางๆ ภาษาฮินดี ให้ทักทายว่า “นมัสเต”
ศาสนา ฮินดู ร้อยละ 81.3 มุสลิมร้อยละ 12 คริสต์ร้อยละ 2.3 ซิกข์ร้อยละ 1.9
อื่น ๆ (พุทธ เชน และนาซิ) ร้อยละ 2.5
การค้าการเงิน
สินค้าส่งออกอัญมณีและกึ่งอัญมณี ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เวชภัณฑ์ เครื่องหนัง
สินค้านำเข้าปิโตรเลียม น้ำมันดิบ อัญมณีและกึ่งอัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เหล็ก และปุ๋ย
ตลาดส่งออกสหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง อังกฤษ เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น เบลเยี่ยม
ตลาดนำเข้า สหรัฐฯ เบลเยี่ยม จีน อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย
สินค้าส่งออกอัญมณีและกึ่งอัญมณี ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เวชภัณฑ์ เครื่องหนัง
สินค้านำเข้าปิโตรเลียม น้ำมันดิบ อัญมณีและกึ่งอัญมณี เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เหล็ก และปุ๋ย
ตลาดส่งออกสหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง อังกฤษ เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น เบลเยี่ยม
ตลาดนำเข้า สหรัฐฯ เบลเยี่ยม จีน อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย
ของซื้อของฝากจากอินเดีย ผ้าส่าหรี ผ้าห่มนวม ผ้าพันคอ พาชมีน่า ถั่วอบแห้ง เครื่องแกงแห้ง เทวรูปทำจากทองเหลือง กระเป๋าผ้าปัก เสื้อผ้าแบบแขก เครื่องหนัง อัญมณีสไตล์อินเดีย ชาเครื่องเทศ ใบชา ฯลฯ
ปลอกหมอนลายน่ารักๆจากอินเดีย
สกุลเงินใช้เงินสกุลรูปี (India Rupees-INR) 1รูปี เท่ากับ0.7บาท 1บาท จะเท่ากับ1.4รูปี ไม่จำกัดการนำเงินเข้าและออกนอกประเทศ แต่ถ้าถือเงินธนบัตรต่างประเทศเกิน 5000 ยูเอสดอลลาร์ หรือเงินในรูปแบบอื่น เช่น เช็คเดินทาง เกิน10000ยูเอสดอลลาร์ ต้องแจ้งต่อศุลกากร มีธนาคารแห่งชาติของอินเดียคือ Reserved Bank of India อุตสาหกรรมใหญ่ยักษ์ของอินเดียคือ TATA Steel
เหรียญรูปีมีให้ใช้ตั้งแต่1,2, 5และ10รูปี
ธนบัตรมีให้ใช้ตั้งแต่ 10, 50, 100, 500 และ 1000 รูปี
การเมืองการปกครอง
อินเดียเดิมปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ มีมหาราชาเป็นประมุข ต่อมาก็กลายเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมายาวนาน จนได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1947 หลังจากการต่อสู้แบบสันติวิธีของท่านมหาตมะ คานธี ผู้เป็นบิดาแห่งอินเดียเป็นบุคคลที่ทั่วโลกยกย่องและสรรเสริญ จะปรากฏภาพของท่านในธนบัตรรูปีอินเดีย และตามสถานที่สำคัญทั่วไป
ปัจจุบันระบอบการเมืองเป็นแบบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา (Parliamentary Democracy)
ระบบการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ (Federal Republic) มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ของประเทศ แบ่งอำนาจการปกครองแบ่งเป็น 28 รัฐ และสหภาพอาณาเขตของรัฐบาลกลาง (Union Territories) อีก 7 เขต แยกศาสนาออกจากการเมือง (secular state)
วันสำคัญคือ วันชาติอินเดีย (Republic Day) ตรงกับวันที่ 26 มกราคม ทุกกิจการร้านค้าจะหยุดทำงานกันหมด วันเอกราช (Independence Day) วันที่ 15 สิงหาคมเป็นวันหยุดราชการเช่นกัน
อินเดียเดิมปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ มีมหาราชาเป็นประมุข ต่อมาก็กลายเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมายาวนาน จนได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1947 หลังจากการต่อสู้แบบสันติวิธีของท่านมหาตมะ คานธี ผู้เป็นบิดาแห่งอินเดียเป็นบุคคลที่ทั่วโลกยกย่องและสรรเสริญ จะปรากฏภาพของท่านในธนบัตรรูปีอินเดีย และตามสถานที่สำคัญทั่วไป
ปัจจุบันระบอบการเมืองเป็นแบบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา (Parliamentary Democracy)
ระบบการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ (Federal Republic) มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ของประเทศ แบ่งอำนาจการปกครองแบ่งเป็น 28 รัฐ และสหภาพอาณาเขตของรัฐบาลกลาง (Union Territories) อีก 7 เขต แยกศาสนาออกจากการเมือง (secular state)
วันสำคัญคือ วันชาติอินเดีย (Republic Day) ตรงกับวันที่ 26 มกราคม ทุกกิจการร้านค้าจะหยุดทำงานกันหมด วันเอกราช (Independence Day) วันที่ 15 สิงหาคมเป็นวันหยุดราชการเช่นกัน
เพลงประจำชาติคือเพลง Jana-gana-mana เป็นเพลงชาติ สัตว์ประจำชาติ คือ สิงโต มีนกยูงเป็นนกประจำชาติ มีต้นไทรหรือบันยันทรี (Banyan Tree) เป็นต้นไม้ประจำชาติ มีดอกบัวเป็นดอกไม้ประจำชาติ และมีมะม่วงเป็นผลไม้ประจำชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น