วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

อินเดีย ใครๆก็ไปได้ ตะลุยกัลกัตตาแบบไม่ง้อทัวร์ Indian Food

                เมื่อเอ่ยถึงอาหารอินเดีย เชื่อว่าหลายท่านคงนึกถึงแต่โรตีไส้ต่างๆ ไม่ว่าจะใส่นม ใส่กล้วย หรือสายไหม หรือนึกถึงแม้แต่ มะตะบะ ไก่ย่างแบบทานดูรี ฯลฯ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมและชิมอาหารอินเดียกันครับ แบบว่าไม่ต้องไปทานถึงประเทศอินเดียก็ได้ เพราะย่านลิตเติ้ลอินเดียพาหุรัด ซอยนานา หรือตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำหรือตามโรงแรมใหญ่ๆ ก็มีร้านอาหารอินเดียเปิดให้บริการแด่นักชิมทุกท่านเช่นกัน
                อย่างที่เคยกล่าวไว้ตอนต้นว่าประเทศอินเดียนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก ดังนั้นอาหารอินเดียจึงหลากหลายไปตามสภาพภูมิประเทศของแต่ละแห่งด้วย  อย่างประเทศอินเดียตอนบนมีภูมิอากาศที่หนาวเย็น ดังนั้นการทานเนื้อสัตว์ไขมันจากสัตว์ หรือเนยแข็งจึงเป็นเรื่องจำเป็น ผิดกับตอนใต้ที่สภาพภูมิอากาศร้อนชื้น  การปรุงอาหารจากเครื่องเทศ สมุนไพรในท้องถิ่นจึงทำได้ง่ายและไม่ค่อยนิยมทานเนื้อสัตว์กัน หากแต่จะทานเป็นมังสวิรัติ และท้องที่ที่อยู่ติดทะเลก็จะมีอาหารจำพวกปลาและอาหารทะเลมาก
 ภัตตาคารชั้นดีมีให้เลือกทั่วไป


 อาหารร้านนี้มีทั้งของภาคเหนือและภาคใต้


                ศาสนาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่ออาหาร ทำให้อาหารแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ท้องที่ที่เป็นแคว้น ของชาวมุสลิม อาหารก็จะเป็นพวกเนื้อสัตว์ จะมีส่วนประกอบของเนื้อวัว เนื้อแกะ ไม่เป็นอาหารมังสวิรัติ  ถ้าเป็นท้องที่ที่เป็นของชาวฮินดู อาหารจะมีทั้งแบบมังสวิรัติและไม่มังสวิรัติ วิธีสังเกตนั้นก็แสนง่าย เพียงแค่สังเกตป้าย VEG หรือ Non-Veg เท่านั้น นั่นคือ ถ้าเป็น VEG คือร้านที่ปลอดเนื้อสัตว์ จะเป็นมังสวิรัติเท่านั้น อาหารจะหนักไปทั้งแป้ง แกงถั่วและมันฝรั่งกับเต้าหู้ ร้านอาหารเหล่านี้จะไม่อนุญาตให้นำอาหารภายนอกที่เป็นเนื้อสัตว์เข้าไปรับประทานในร้านเป็นอันขาดครับ  ถ้าเป็น Non-Veg อาหารก็จะเป็นเนื้อสัตว์ปะปน ซึ่งแน่นอนไม่มีเนื้อวัวนะครับ เนื่องจากชาวอินดูนับถือวัวเป็นเสมือนพาหนะของเทพเจ้า ดังนั้นเวลาเดินทางไปอินเดีย เราจะเห็นวัวนอนอยู่ทุกหนแห่งโดยไม่มีใครทำร้ายหรือรถชนมัน  ดังนั้นเนื้อสัตว์ที่เหลือที่จะนำมาปรุงอาหารได้ก็คือเนื้อแพะ เนื้อไก่ และสัตว์ทะเลจำพวกปลา เนื้อหมูคนที่นี่เขาไม่ทานกันนะครับ ใครเป็นมุสลิมสบายใจได้เลยครับ 
เหตุผลที่คนอินเดียรับประทานมังสวิรัติกันเยอะนั้น น่าจะมาจากความเชื่อที่เทพเจ้าที่พวกเขาเคารพนั้นเป็นเทพที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ดังนั้นผู้คนทั้งหลายจึงเจริญรอยตามท่าน (อันนี้ไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองรึป่าว) ดังนั้นคนอินเดียจึงไม่มีกลิ่นตัวเป็นเพราะรับประทานอาหารมังสวิรัตินั่นเอง
 ร้านอาหารมังสวิรัติแบบข้างทาง


                เรามาว่ากันด้วยเรื่องอาหาร Non-Veg กันก่อน เพราะเชื่อกันว่าคงเป็นอาหารที่คนไทยหลายต่อหลายท่านชอบทานกันมากกว่า ที่นี่เค้าจะทานแกงกับแป้ง แป้งมีหลายขนิดมีทั้งแบ้งหนาแผ่นใหญ่ที่เรียกว่า นาน (Nan) เล็กลงมาหน่อยแบบบางเรียกว่า จอปาตี หรือ จาปาตี (Japati) บางครั้งก็เรียกว่า โรตี (Roti) ซึ่งแป้งพวกนี้ทำมาจากข้าวสาลี เนื้อจะนุ่มกว่าแป้งในบ้านเราเยอะครับ ยิ่งเวลาอุ่นแป้งร้อนๆแล้วทานกับแกงเนี่ย อร่อยอย่าบอกใครเชียว แกงที่รับประทานคู่กับอาหารพวกนี้ก็มีทั้ง แกงไก่ แกงแพะ มีทั้งแบบมาซาล่าและกุรหม่า (Masala) (Kurma) หรือเป็นแกงกะหรี่ (Curry) ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของเครื่องแกงที่ใช้ตำลงไป อาหารจานเดียวที่ขึ้นชื่อของที่อินเดียคือ ข้าวหมกไก่ ข้าวหมกแพะอ่านออกเสียงว่า "บริยานี่" (Briyani Chicken/Mutton rice)
ต้นตำรับข้าวหมกไก่ที่นี่อร่อยไม่แพ้ใคร เพราะเครื่องเทศของเค้าจะอบถึงกว่าบ้านเราเยอะ แถมยังมีให้เห็นในตัวข้าวเลยว่าใส่มามาก รสชาติกลมกล่อมและรสจัดกว่าบ้านเราครับ ส่วนเมล็ดข้าวที่นี่เค้าจะใช้ข้าวเม็ดยาว ซึ่งเค้าจะเรียกกันว่าข้าวบาสมาติ  (Basmati)เมล็ดข้าวจะยาวเรียวแต่แข็งนิดๆครับ เมื่อนำมมาหุงแบบข้าวหมกข้าวจึงไม่เละเหมือนบ้านเรา
 Briyani Chicken Rice ข้าวหมกไก่
 แกงไก่ Chicken Curry
ไก่ทอดและเกี๊ยวซ่า


                   นอกจากนี้อาหารอินเดียทางตอนเหนือ และแถบรัฐราชาสถาน (Rajasthan) ยังมีอาหารอีกจำพวกที่เรียกว่า มุกไลห์ (Muglhai) ซึ่งจะเป็นอาหารจำพวกเนื้อไก่และเนื้อแพะนำไปย่างก่อนแล้วจึงค่อยนำมาแกงแบบน้ำขลุกขลิกเข้มข้น ด้วยกลิ่นเครื่องเทศที่ดับกลิ่นเนื้อแพะได้อย่างดี ซึ่งแกงประเภทนี้รับประทานกับนานกระเทียม (Garlic Nan) จะอร่อยมากๆ แต่ราคาของอาหารก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

 Chicken Muglhai & Mutton Muglhai with Garlic Nan
Chicken Curry with Garlic Nan
                อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ปิ้งย่างของอินเดียจะนำมาหมักเครื่องเทศแล้วเสียบไม้ย่าง หรือที่เรียกว่า เคบับ (Kebab) นั้นได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมเปอร์เซีย มีให้เลือกทั้งเนื้อไก่และเนื้อแพะ และไก่ย่างสุดอร่อยแบบอินเดียที่เรียกว่า ทันดูรี (Tandoori) โดยจะนำไก่ไปหมักเครื่องเทศและโยเกิร์ตก่อนนำไปย่างด้วยเตาโอ่งแบบโบราณ แต่ถ้าเป็นไก่ไม่มีกระดูกจะเรียกว่า Chicken Tikka ซึ่งเนื้อไก่ที่ย่างสีจะออกแดงสด ไม่เหลืองเหมือนบ้านเรา

 Chicken Tandoori & Kebab shop

                สำหรับอาหารแบบVeggie หรือมังสวิรัตินั้นจะมีเมนูให้เลือกไม่อั้นเลยคือไปที่ไหนก็จะเจอแต่ร้านแบบนี้เต็มไปหมด  มาเริ่มที่จานเรียกน้ำย่อยกันก่อน เริ่มต้นด้วย (Chad) เป็นจานเรียกน้ำย่อยเป็นแผ่นแป้งบางๆราดด้วยซีเรียลแล้วราดด้วยน้ำโยเกิร์ตรสชาติจะออกเปรี้ยวหวาน ซาโมซ่า(Samosa) คล้ายกับกะหรี่ปั๊บนำไปทอดไส้ข้างในจะเป็นถั่วและผัก ข้าวยำมะเขือเทศ เป็นข้าวนำมายำกับมะเขือเทศสับ ถั่วบดและมีน้ำยำราดส่วนจานหลักจะเป็นพวกแกงถั่ว ถั่วที่นี่เค้าใช้ถั่วเหลืองแกงจนเปื่อยนุ่ม เรียกว่า "ดาล" (Dal Masala, Dal Curry) แกงชีสcottage cheese (Paneer) อ่านออกเสียง "ปาเนียร์"ทานกับแป้งชุดนาน จาปาตี โรตีเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีแป้งที่หน้าตาคล้ายกับพวกหม่านโถวด้วย ขอแถมอีกนิดถ้าเป็นอาหารมังสวิรัติ ในตัวแป้งพวกนี้บางครั้งยังยัดไส้หอมใหญ่ มันฝรั่ง มาซาล่าลงไปด้วย ถ้าเป็นอินเดียทางตอนใต้ เค้าจะทานแป้งห่อไส้มันฝรั่งถั่วและหอมใหญ่คล้ายกับแผ่นขนมเบื้องญวนเรียกว่า โดซ่า(Dosa) พวกนี้จะเป็นอาหารจานหลัก เรียกว่าทานทีเดียวอิ่มท้องไปอีกนาน นอกจากนี้ยังมีข้าวผัดมังสวิรัติ และหมี่ผัดมังสวิรัติอีกด้วย
 แกงถั่วหรือดาล (Dal Curry)

หมี่ผัดและข้าวผัดแบบมังสวิรัติ
 แกงเต้าหู้ (paneer)ทานกับจาปาตี
Dosa หรือขนมเบื้องแบบอินเดียทานกับน้ำราดคล้ายโยเกิร์ต เรียกว่า "ชัดนี่" (Chudney)
 อันนี้Uttapam จะเป็นแผ่นแป้งสอดใส่ผักและมันฝรั่ง
Chad หรือจานเรียกน้ำย่อยของอินเดีย

          Uttapam เรียกว่า อุตตาปาม เป็นแผ่นแป้งทอดสอดไส้ต่างๆ มีทั้งไส้เต้าหู้ ไส้มะเขือเทศ ไส้หัวหอม ไส้มันฝรั่ง ล้วนแต่มังสวิรัติ  ปุริ (Puri) เป็นแป้งกลมๆนำไปทอดให้พองตรงกลางนิยมทานคู่กับน้ำแกงมันฝรั่งหรือแกงถั่ว
แกงไข่ทานกับโรตี 
 Onion Uttapam
 Puri & Dal curry
แกงมันฝรั่งราดบนจาปาตีแบบพื้นบ้านทานร้อนๆ

                อาหารมังสวิรัติของอินเดียนั้นมีข้าวหมกผักเช่นเดียวกัน เรียกว่า Veg Briyani เป็นข้าวหมกมังสวิรัติหมักเครื่องเทศชนิดเดียวกันกับข้าวหมกไก่ นอกจากนี้ยังมีชุดข้าว ทาลี Thali ซึ่งเป็นชุดสำรับข้าวทานกับแกงหลากชนิดที่เป็นอาหารมังสวิรัติ จัดไว้ในถาดอาหารซึ่งประกอบด้วย น้ำแกงถั่ว แกงผัก โยเกิร์ต และเครื่องเคียงต่างๆ
ข้าวหมกมังสวิรัติกับน้ำมะม่วงปั่น (Veg Briyani & Mango Lassi)

Thali ชุดนี้เป็นแกงมันฝรั่งและแกงถั่ว

                ของหวานและเครื่องดื่ม ขนมหวานที่ขึ้นชื่อมากๆของที่นี่คือ กุลาบ จามูน (Gulab Jamun) ลักษณะเป็นแป้งร้อนสีน้ำตาลนำไปอบแล้วราดด้วยน้ำเชื่อม รสชาติหวานจัด  นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมนมเรียกว่า "รัส มาไล" (Rus Malai) ทั้งเย็นและหวานรสนมแพะโรยเกล็ดถั่วพิสทาซิโอข้างบน ถั่วกวนที่เป็นขนมมงคลตามงานต่างๆก็ใช่ ทุกอย่างล้วนรสชาติหวานจัด ต้องทานควบคู่กับน้ำชาร้อนหรือการัม (Garum) มีทั้งชาใส่นม ชาเครื่องเทศ (Masala tea) ที่นี่เขาจะใส่ภาชนะเป็นถ้วยดินเผาคล้ายจอก ใช้ครั้งเดียวแล้วโยนทิ้งไปเลย เครื่องดื่มอื่นๆที่ขึ้นชื่อก็เช่น  Rose Lassi เป็นนมเปรี้ยวปั่นกับน้ำกุหลาบ และยังมีน้ำผลไม้คั้นสด ทั้งน้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำส้มเช้ง น้ำทับทิม น้ำมะม่วง อย่างสุดท้ายนี่ถึงขนาดบรรจุขวดอย่างดีวางขายทั่วไปเลยทีเดียว สุดท้ายที่ขาดไม่ได้หลังมื้ออาหารผ่านไป ทุกร้านเค้าจะมีถาดหลุมบรรจุเครื่องเทศให้ทานเพื่อดับกลิ่นปาก คล้ายกับเมล็ดยี่หร่าและน้ำตาลกรวดขนาดเล็กๆ ให้ได้ขบเคี้ยว บางคนก็สั่งโยเกิร์ตมาทานช่วยย่อยหลังมื้ออาหาร โยเกิร์ตที่นี่บางทีเรียกว่า "ไรต้า" (Raita) บางครั้งเรียกว่า "เคิร์ด" (Curd) ภายในจะฝานแตงกวาลงไปแบบละเอียดและหอมใหญ่ด้วย
รถเข็นขายขนมหวานอินเดียแบบข้างทาง 
ขนมหวานของอินเดียรสชาติหวานจัด การขายจะขายแบบชั่งกิโลขาย

ขนมหวานนานาชนิดมักจะทำจากแป้งถั่ว นมและเนย


 ไรต้า (Raita) หรือโยเกิร์ต ไว้ทานหลังมื้ออาหาร

เม็ดยี่หร่าและน้ำตาลกรวดจะมีไว้ให้เสมอหลังมื้ออาหารทุกมื้อไว้ดับกลิ่นปาก
 Gulab Jamun กุหลาบ จามูน

Rose Lassi นมเปรี้ยวปั่นน้ำกุหลาบ


            สรุปส่งท้าย อาหารอินเดียทุกชนิดไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะส่วนใหญ่จะปรุงสดไม่มีทิ้งไว้ค้างคืน และเป็นอาหารที่ปรุงโดยผ่านกรรมวิธีความร้อนทั้งสิ้น ทุกจานส่วนใหญ่จะร้อน ดังนั้นหมดความกังวลใจในเรื่องความไม่สะอาดไปได้เลยครับ คุณจะไม่ท้องเสียแน่นอน หากเลือกรับประทานอาหารร้อน ส่วนน้ำผลไม้ที่นี่ส่วนใหญ่จะคั้นสดจากเครื่องและไม่ใส่น้ำแข็งด้วย ดังนั้นหมดกังวลเรื่องน้ำแข็งไม่สะอาดไปได้เลยครับ
 ผลไม้สดๆมีขายข้างทาง
น้ำส้มเช้งคั้นสดๆ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น