1. 1. เที่ยวดูไบมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง
ด้วยกฎหมายบ้านเมืองที่มีบทลงโทษรุนแรง หากลักทรัพย์หรือทำร้ายร่างกาย
อีกทั้งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง พึ่งพาน้ำมันเพื่อการส่งออก
ดังนั้นรายได้ประชากรต่อหัวจึงดีมากๆ การเดินทางท่องเที่ยวตามลำพังปลอดภัย แต่ก็อย่างว่าอย่าใส่ทรัพย์สินมีค่าไปเดินในที่เปลี่ยวๆก็พอ
กลางวันริมท่าเรือต่อให้ไม่มีคนเลยก็ยังปลอดภัย
นักท่องเที่ยวสตรีสามารถเดินทางตามลำพังได้ในดูไบ
1. 2. การเดินทางสะดวกสบาย
ตามเมืองใหญ่ๆ เช่น รัฐดูไบ นครรัฐอาบูดาบีและรัฐซาร์จ้าห์
มีระบบขนส่งมวลชนครอบคลุม ทั้งรถประจำทางและรถไฟฟ้า รวมถึงเรือข้ามฟาก
แต่นครหลวงมัสกัต โอมาน ยังคงต้องเช่ารถหรือใช้บริการรถแท็กซี่กันอยู่
สถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้กับที่พักของเรา
บรรยากาศภายในรถไฟฟ้ายามชั่วโมงไม่เร่งด่วน
ท่าจอดรถโดยสารระหว่างเมืองกรุงอะบูดาบี
ภายในสถานีขนส่งที่ทันสมัย
เรือข้ามฟากให้บริการที่ดูไบครี้ก
1. 3. โรงแรมชั้นยอด
ที่สุดของโรงแรมหรูหรามักตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง ทั้งโรงแรมระดับห้าดาวที่มีสาขาทั่วโลก
เช่น เครือแมนดาริน ฮิลตัน The Jedi, เพนนินซูล่า,
รวมไปถึงเครือดุสิตธานีก็ยังมาเปิดสาขาที่นี่เลย แต่ถ้าใครงบน้อยหน่อย
โรงแรมใจกลางเมืองระดับสามดาว โรงแรมสำหรับนักธุรกิจยังมีเปิดให้บริการอีกมาก
โรงแรมกับตึกระฟ้าในนครดูไบแยกกันไม่ค่อยออก
โรงแรมห้าดาวอีกหลายตึกกำลังก่อสร้างในกลุ่มบริษัทEmmar
คาเฟ่เล็กๆภายในโรงแรมแบบบูติก
ป้อมปราการโบราณบางแห่งก็ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม
โรงแรมใหญ่อยู่ติดกับดูไบมอลล์
Burj Al Arab โรงแรมรูปทรงเรือใบระดับ7ดาว ริมหาด
1. 4. ช้อปปิ้งดูไบเพลินใจ
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านค้าแบรนด์เนมมากมายต่างยึดหัวหาดนครดูไบให้เป็นดิสเพลย์ช้อปปิ้งที่มีขนาดใหญ่และหรูหราที่สุดในโลก
ที่สำคัญสุดคือปลอดภาษี ทั้งห้าง Mall of Emirates, Dubai Mall, Marina
Mall, หรือแม้แต่ Lulu Hypermarket ที่พึ่งพาได้ยามยาก
และที่ห้ามพลาดเลยคือการชมตลาดทองที่คาดว่าน่าจะเป็นตลาดค้าทองรูปพรรณที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และมีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครด้วย
ห้างดูไบมอลล์มีครบทุกสิ่ง
Souk ในห้างดูไบมอลล์อันอลังการ
ของที่ระลึกในตลาดเก่าดูไบ
ตลาดทองดูไบ
ตลาดทองซาร์จ้าห์
ตลาดติดแอร์ขนาดยักษ์เพื่อนพึ่งพายามยาก
1. 5. อาหารอาหรับเลิศรส
ใครที่ยังไม่เคยลองทานอาหารอาหรับมาก่อนก็จะได้เริ่มต้นลิ้มรสกันที่นี่ มีทั้งอาหารพื้นๆ
เช่น Shwarma แป้งห่อเนื้อสัตว์ที่มาจากการเสียบไม้ปิ้ง
ถั่วบดHummus,ข้าวหมกนานาชนิด ขนม Baklava
ด้านเครื่องดื่มก็มีทั้ง ชาและกาแฟแบบอาหรับ น้ำกุหลาบ น้ำอินทผาลัม
ยิ่งได้น้ำผลไม้ปั่นเย็นชื่นใจ เช่นน้ำมะม่วง หรือจำพวกโยเกิร์ต Lassi ด้วยแล้วยิ่งชื่นใจใหญ่
ถ้าใครทานอาหารอาหรับไม่เป็น ที่นี่ยังคงมีอาหารชาติอื่นๆ หลากหลาย เพราะมีชาวต่างชาติเข้าไปทำงานกันเยอะ
เลยมีทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น และอาหารตะวันตกให้ได้ลิ้มรสอีกมาก
อาหารเช้าแบบอาหรับสลัดใส่ชีสและมะกอกพร้อมถั่วบด
Shwarma ก็คือเคบับบ้านเรานั่นแหละห่อเนื้อสัตว์แล้วสับเป็นชิ้น
ข้าวหมกไก่จานยักษ์ที่โอมานทานได้สองคน
Baklava ขนมหวานสัญชาติตุรกีเป็นที่นิยมทานกันที่นี่
ถ้ากินอาหารอาหรับไม่เป็นก็มีอาหารอินเดียให้ลองนะ
1. 6. สัมผัสวัฒนธรรมอาหรับ
แบบดั้งเดิม ถึงแม้ว่าปัจจุบันบ้านเมืองในภูมิภาคอาหรับจะเต็มไปด้วยตึกสูงทันสมัย
อันเกิดจากความมั่งคั่งของธุรกิจปิโตรเลียมแล้ว ในมุมเล็กๆของเมืองก็ยังคงมีการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่าและตลาดโบราณให้เราได้เดินเที่ยว
รวมไปถึงการมีบาร์สูบชิชาให้บริการ เปิดเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมโบราณ
ถึงแม้ว่าปัจจุบันแทบจะไม่มีภาพนั้นให้เห็นแล้วก็ตาม
การจำลองวัฒนธรรมอาหรับดั้งเดิมใน Dubai Museum
หมู่บ้านจำลองวัฒนธรรมในรัฐซาร์จ้าห์
เรือจำลองแบบอาหรับโบราณที่แล่นได้จริงๆ
ตลาดทองโบราณในนครดูไบที่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบเดิมอยู่
1. 7. คนอาหรับคนโอมานเป็นมิตรกับผู้คนทั่วไป
แค่กล่าวทักทายพวกเขาก็พร้อมที่จะยิ้มทักทายตอบ
และให้ความช่วยเหลือได้ในกรณีที่หลงทาง ถึงแม้จะไม่ได้กรูกันเข้ามาช่วยเหลือแบบคนอินเดีย
แต่ถ้าเราขอความช่วยเหลือจากพวกเขาแล้ว เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือเรา
แล้วเราล่ะพร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้ผู้คนจากโลกอาหรับกันหรือยัง
เพื่อนร่วมห้องชาวซาอุฯ และชาวแอฟริกัน
สองไกด์ชาวโอมาน
หนุ่มๆ ชาวโอมานในชุดประจำชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น