Bali บาหลีดินแดนในฝันของใครอีกหลายคนรวมถึงที่คู่รักจากทั่วโลกต่างก็ใฝ่ฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เดินทางมาเที่ยวบาหลี
มาดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งสายลมและแสงแดดพร้อมดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่นี่ ด้วยว่าเกาะบาหลีนั้นอยู่ในประเทศอินโดนีเซียก็จริง
แต่วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองที่นั่นแตกต่างจากทุกเกาะก็เพราะว่า คนบนเกาะบาหลีมากกว่า
90% นับถือศาสนาฮินดูนั่นเอง การท่องเที่ยวพักผ่อนรวมไปถึงบรรยากาศในการ Hang out จึงมีมากกว่าเกาะอื่นๆ ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เกาะสวรรค์ บาหลีคร้าบ
วัดฮินดูที่บาหลีมีเยอะมาก ไม่ควรพลาดเลยซักวัดเดียว
เกาะบาหลีนอกจากจะเป็นเกาะที่ร่ำรวยด้วยวัฒนธรรมฮินดูที่ต่อไปเราจะได้เห็นตามวัดและบ้านเรือนผู้คนรวมไปถึงการละเล่นฟ้อนรำแล้ว
เกาะบาหลียังคงมีหาดทรายและท้องทะเลที่งดงามพร้อมให้เราไปดำผุดดำว่าย
หรือนอนอาบแดดให้ผิวเป็นสีแทนตามเทรนด์ปัจจุบันอีกด้วย
ฉันกับเพื่อนเลือกที่จะใช้เวลาท่องเที่ยวในบาหลีรวม 5 วัน
กะว่าจะชาร์จแบตจากการทำงานให้เต็มที่เสียหน่อย
อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกไปเที่ยวทุกครั้งนะครับ
ท้องทะเลบาหลีงดงาม น้ำใสแจ๋วมากๆ
ใครไม่ชอบทะเลก็มีภูเขาไฟให้ไปปีนป่ายนะครับ
ทริปเที่ยวบาหลีนี้ฉันกับเพื่อนวางใจใช้บริการสายการบิน
มาลินโดและบาติกแอร์ (Malindo
Air & Batik Air) สายการบินพันธมิตรของไลอ้อนแอร์ (Lion Air) สายการบิน Lowcost แบบพรีเมี่ยม มาในราคา 6500 บาท
แต่ต้องไปต่อเครื่องที่ KL (Kuala
Lumpur) มาเลเซียนะ ตอนแรกเพื่อนบ่นเรื่องต่อเครื่องกับราคาที่สูงกว่า
Lowcost เจ้าอื่นๆ แต่สุดท้ายก็ตกลง
เพราะราคานี้รวมอาหาร4มื้อและค่าโหลดกระเป๋าแล้ว พร้อมพาเราทะยานสู่สนามบินนานาชาติบาหลี
(Ngurah Rai International Airport)
คนที่นี่ออกเสียง งูราห์ ไร ตั้งอยู่ในเขตเมืองเดนปาซาร์ (Denpasar)
เครื่องบินเล็กๆ พาเราไปสู่บาหลี การเดินทางกำลังจะเริ่มขึ้น
ออกทะยานสู่บาหลีแล้วจ้า
เราชอบสายการบินนี้นะ ทั้งลำคนนั่งน้อยดี
เราชอบLowcost เจ้านี้ เพราะมีจอให้ดูหนังได้จริงๆ
ขาไปจากกรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ มีข้าวให้มื้อหนึ่ง
ส่วนจากกัวลาลัมเปอร์ ไปบาหลี จะเป็นขนมปังกับน้ำผลไม้
ระหว่างทาง เราเปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ รอแค่ชั่วโมงครึ่ง
Laksa ก๋วยเตี๋ยวพื้นเมืองมาเลเซีย อร่อยๆ ของสองเรา ที่สนามบินKL
ลองชิม Otak Otak ครั้งแรก มันคือห่อหมกปลาปิ้งนี่นา
เที่ยวบาหลีฟรีวีซ่านะ อยู่ในเขตประเทศอินโดนีเซีย เราสามารถอยู่ได้ถึง30 วัน เจ้าหน้าที่ตม.
ที่นี่ดูหน้าดุนิดนึง หน้าเค้าอาจจะเข้มกว่าพวกเรา พอผ่านพ้นมาได้แล้ว
ให้รีบไปเก็บข้อมูลการท่องเที่ยว ที่สนามบินงูราไรห์มีเอกสารให้หยิบเพียบ
เราเริ่มตื่นเต้นแล้วสิ ที่เราจะได้ไปเสพอาร์ตที่เมืองอุบุด (Ubud) เป็นคืนแรกที่เราจะไปนอน
เราบินมาถึงตอนดึก สนามบินงี้โล่งเชียว
ระหว่างทางจากสนามบินบาหลี เมืองเดนปาชาร์ (Denpasar)
เราให้รถของโรงแรมมารับที่สนามบิน จากสนามบินไปเมืองอูบุดใช้เวลามากกว่า
1 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยการจราจรที่ติดขัดในช่วงค่ำ ที่พักของเราสองคืนจากวันนี้ชื่อ Desak Puri Cottageเป็นโรงแรมตกแต่งสไตล์บูติค ค่าโรงแรมสองคืนอยู่ที่
9แสนรูเปียห์ และค่ารถจากสนามบิน 350,000รูเปียห์ มาถึงที่พักดึกดื่นก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง
ที่นี่เขาเตรียม Welcome
Drink ไว้ต้อนรับพวกเราด้วย
Welcome Drink ที่นี่เป็นน้ำตะไคร้ผสมน้ำขิง กับแตงโมชิ้นเล็กๆจ้า
ห้องพักของเราสองคนคืนนี้จ้ะ
เราชอบที่นี่นะ ตกแต่งแบบสไตล์บูติกเลย
ประตูห้องน้ำเปิดออกไปแสงเข้าห้องเลย
น่าเสียดายห้องอาบน้ำที่นี่ทำแค่หลังคาโปร่งแสง ไม่ทำแบบ open air
มุมแต่งตัวในห้องน้ำ ใช้วางกระเป๋าได้เลย
ตัดมาที่มุมโซฟารับแขกบ้าง ถ้ามากันสามคน คนที่สามนอนตรงนี้ได้เลย
ขอให้ทุกท่านหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์คร้าบ
คืนนี้นอนพักผ่อนเอาแรงให้เต็มที่
เพราะวันรุ่งขึ้น ทัวร์เกาะบาหลีที่เราจองไว้คือ Teddy Bali Tour จะมารับเราไปเที่ยวแต่เช้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น