วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

แบกเป้เที่ยวจีนหน้าหนาว แบบคูลๆ ณ มหานครปักกิ่ง เคล็ดไม่ลับในการเตรียมตัวเตรียมใจก่อนไปเที่ยวประเทศจีน How to prepare yourself to China mainland

หมดยุคท่องเที่ยวจีนสไตล์อาม่าแล้วที่ใครๆจะต้องไปกับทัวร์ เพราะว่าสื่อสารพูดคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ประเทศจีนไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดมโนภาพเอาไว้ตอนสมัยเด็กๆเลยครับ สมัยนี้ใครๆก็ไปเที่ยวจีนด้วยตัวเองได้แบบไม่ง้อทัวร์ ขอแค่ให้คุณคลายจากความกังวลว่าจะทำไม่ได้พึ่งพาตนเองไม่ได้ ถามว่าแล้วจะทำได้ยังไงรายละเอียดการแบกเป้เที่ยวจีนในตอนต่อๆไปนั้น เราจะบอกวิธีการเดินทางอย่างละเอียดครับ
การไปเที่ยวด้วยตัวเองทำให้เราได้ใช้เวลากับสถานที่ที่เราชอบมากขึ้น

เตรียมตัวไปเที่ยวจีนกัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง
1.       งบประมาณ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันต้องมีเงินก่อนครับ เพราะคุณจะต้องเอาเงินนี้ไปจองตั๋วเครื่องบิน ไปจองโรงแรมที่พัก ไปยื่นขอวีซ่า หรือเก็บไว้ท่องเที่ยวใช้จ่ายส่วนตัวที่นั่น ไปเที่ยวจีนด้วยงบมากหรืองบน้อยก็จะมีผลกับการเลือกที่พัก การเลือกสายการบินและวิธีการเดินทางภายในครับ แต่ครั้งนี้ผมขอทำหน้าที่สานฝันให้กับคนที่มีงบน้อยครับ
งบมากหรืองบน้อยเป็นตัวแปรกำหนดไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยวครับ

2.       การจองตั๋วเครื่องบิน  เมื่อเรากำหนดงบได้แล้วก็มาเลือกสายการบินกัน คนมีงบมากหน่อยอาจใช้สายการบินชั้นนำที่มีเที่ยวบินตรงสู่ปักกิ่ง เช่น การบินไทย สายการบินไชน่าแอร์ไลน์  หากคุณมีงบน้อย เราก็มีสายการบินต้นทุนต่ำให้เลือก หรืออาจจะชั้นนำแต่มีช่วงจัดโปร เช่น มาเลเซียแอร์ไลน์ , เวียดนามแอร์, แอร์เอเชีย, นกสกู๊ต ฯลฯ  แต่การไปเที่ยวปักกิ่งครั้งนี้ เราขอเลือก Airasia ครับ เพราะราคาถูกที่สุด ต่อเครื่องที่สนามบิน Kuala Lumpur(KLIA) แล้วไปต่อเครื่อง Airasia X ลำใหญ่ไปปักกิ่งครับ ด้วยงบประมาณ 6670 บาท รู้สึกเสียดายมากๆ ที่พลาดโปรของ Malaysia Airline ที่เคยจัดโปรรวมทุกอย่างที่ 5900 บาท
พี่ NokScoot บินตรงพาไปส่งถึงแค่เมือง Tianjin เราเลยไม่ได้เลือกใช้งานนางจ้า
เราเลยเลือกใช้บริการของAirasia บินอ้อมโลกแต่ราคาถูกที่สุด ส่งตรงถึงปักกิ่ง

3.       การจองโรงแรม ก็ขึ้นอยู่กับเมืองที่คุณจะไปและงบคุณอีกนั่นแหละ จะนอนที่เดียวทุกคืนหรือจะย้ายโรงแรมไปเรื่อยๆ ก็ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของคุณว่าจะไปเที่ยวเมืองไหนบ้าง  จะนอนโรงแรมชั้นนำหรือจะนอนโฮสเทลหรือเกสต์เฮ้าส์ ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของคุณอีก เดี๋ยวนี้วิธีการจองโรงแรมที่พักทำได้ง่ายมาก มีทั้งเว็บ Agoda ที่ตัดบัตรก่อน กับเว็บ Booking ที่ไปจ่ายหน้างานทีหลัง หรือจะใช้Application สะดวกสบายหาที่พักแบบที่ ได้พักกับเจ้าบ้านเลยเช่น airbnb.com เป็นต้น  ครั้งนี้เราเลือก Beijing Grannery Hostel พักสามคืน เป็นเงิน 957 บาทเอง 
ที่พักสำหรับ Backpacker สไตล์เรียบง่าย ข้างในสะอาด ตั้งอยู่ใจกลางเมือง

4.       แผนการเดินทาง (Trip Plan) จำเป็นและสำคัญทำไว้ก่อนไม่เสียหลาย เพื่อให้การเที่ยวของคุณไม่สะดุด อาจทำไว้สัก2-3 แพลนก็ได้เผื่อแพลนแรกไม่สำเร็จ มันจำเป็นก็ต่อเมื่อคุณต้องไปยื่นวีซ่าด้วยตัวเอง หรือเมื่อโดนตม.จีนกักตัว ให้เอาแผนการท่องเที่ยวที่เป็นภาษาอังกฤษยื่นให้ดูเลย แถมอีกนิดถ้ากลัวหลงทางให้ปริ๊นต์สถานที่ท่องเที่ยวเป็น Google Map และ Direction จากโรงแรมที่พักไปจากไทยเลย เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหา 
วางแผนดีดี การซื้อบัตรใบเดียวเที่ยวได้ทั่วปักกิ่งทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นเยอะ

5.       การขอวีซ่า Chinese Visa ถ้าไม่ได้ขอวีซ่าจีนไปก่อน โดนส่งกลับแน่นอนจ้ะ ดีไม่ดีพนักงานที่เค้าน์เตอร์สายการบินไม่ให้ขึ้นเครื่องตั้งแต่ต้นทางเลยด้วย เดี๋ยวนี้การขอวีซ่าจีนไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป และไม่ต้องไปยื่นด้วยตัวเองที่สถานทูตจีน ซึ่งถ้าไปยื่นด้วยตัวเองจะเสียค่าใช้จ่ายที่ 1500บาท ในครั้งนี้เราได้ใช้บริการของ Nihao China Travel  http://www.nihaochinatravel.com/nihao/contactus.php จ่ายไปประมาณ 2000 บาท นางทำให้ทุกอย่างเลย  สิ่งที่จะต้องเตรียมเพื่อยื่นขอวีซ่าจีน มีอะไรบ้าง เรามาดูกัน
5.1                        รูปถ่ายหน้าตรงเปิดใบหู พื้นหลังขาว ขนาด 2x2นิ้ว จำนวน2ใบ ย้ำว่าต้องเป็นขนาดนี้เท่านั้น ไปบอกร้านถ่ายรูปได้เลยว่าต้องการทำวีซ่าจีน เขาก็จะถ่ายให้ ห้ามนำรูปมาตัดแต่งเอง เพราะสเกลมันจะไม่ได้ครับ
5.2                        หนังสือเดินทางเล่มจริงที่มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า6เดือน  จะต้องส่งให้บริษัทรับยื่นวีซ่าทางไปรษณีย์
5.3                        สำเนาตั๋วเครื่องบินและสำเนาใบจองโรงแรม
5.4                        สำหรับบางอาชีพและสาวประเภทสอง จะต้องมีหนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ และอาจต้องใช้ Statement ธนาคารย้อนหลัง 6เดือน
5.5                        กรอกแบบฟอร์มสำหรับการยื่นขอวีซ่าจีนที่ทางบริษัทฯ ออกให้ออนไลน์และส่งไปที่บริษัท
การยื่นขอวีซ่าผ่านบริษัททัวร์จะผ่านการอนุมัติง่ายกว่า เพราะเขาจะยื่นเป็นหมู่คณะและมีเครดิตที่ดีกว่าเราไปยื่นด้วยตัวเอง ถ้าอยากให้ผ่านชัวร์ แนะนำให้จ้างยื่นครับ

อย่าลืมเตรียมเอกสารให้ครบก่อนผ่านด่านตม.จีนนะ

6.       เตรียมตัวจัดกระเป๋ากัน ขนาดของกระเป๋าจะใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่ไปและอากาศตอนที่ไปเที่ยวจีน ถ้าไปหลายวันต้องจัดใบใหญ่ และถ้าอากาศหนาวด้วยอีกให้เตรียมเสื้อกันหนาวเยอะหน่อยและถุงเท้าถุงมือ หมวกไปด้วยนะครับ ที่ไม่ควรลืมเลยคือกระบอกน้ำ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะมีน้ำร้อนให้บริการฟรีครับ และปลั๊กไฟที่นั่นใช้สองขาเหลี่ยมเหมือนบ้านเราเป๊ะครับ
ถ้าลืมซื้อของใช้จำเป็นที่ Duty Free สนามบินปักกิ่งใหญ่มากๆ มีของทุกอย่างที่ต้องการ

7.       แลกเงินให้เรียบร้อย สกุลเงินที่ใช้กันทั่วไปในจีนคือ RMB คนไทยเรียกเงินหยวน คนจีนเรียก “เหรินหมินปี้” มีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ประมาณ 1หยวน เท่ากับ 5.5 บาทไทย แนะให้แลกให้เสร็จที่เมืองไทยก่อนเดินทางไปครับ

8.       โดนบล็อกสัญญาณ Social Network ทำอย่างไร ข้อนี้สำคัญสุด หลายคนแทบจะลงแดงตายที่ไม่ได้ลงรูปตัวเองสวยๆ โพสต์สถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆ เดี๋ยวนี้ไปเที่ยวจีนไม่ต้องกังวลอีกต่อไป สามารถเปิดโรมมิ่งสัญญาณเน็ตได้จากฝั่งไทยแต่ราคาจะค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการซิมจีน และกล่องWifi จีนอีกหลายราย แต่ขอให้คุณตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการก่อนว่าไม่ครอบคลุมแอ็พใดบ้าง แต่ไม่แนะนำให้ใช้ VPNนะ เพราะเปิดใช้งานได้แค่บางช่วงบางเวลา มันจะเข้าได้ช่วงดึกๆกับเช้ามืดครับ
เราไม่ได้ติดSocial มากนักเลยโหลดแค่ VPN ไป ปรากฏว่าใช้ได้แค่ Line, IG ในบางเวลาเท่านั้น

9.       เตรียมใจให้พร้อม ข้อนี้สำคัญสุด การไปเที่ยวจีนด้วยตัวเอง อุปสรรคแรกที่จะเจอแน่นอน คือเรื่องของการสื่อสารครับ คนจีนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก อาจต้องใช้ภาษามือหรือชี้นิ้วในการสั่งอาหาร แต่เชื่อเถอะ การที่เราได้เรียนรู้หัดพูดภาษาจีนแบบง่ายๆสั้นๆ ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยว เช่นคำกล่าวทักทาย มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของนักเดินทางครับ รู้ไว้พูดได้ไม่เสียหลาย รู้ไว้พูดได้ไม่อดตายแน่นอนครับ
คนปักกิ่งน่ารัก เราหัดพูดจีนได้นิดหน่อยก็ได้ใจนางไปละ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น