วัดโทไดจิและกวางน้อย สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองนารา
เมืองนารามาเที่ยวได้ง่าย ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโอซาก้าไม่ไกลนัก
ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 50 นาทีเท่านั้น ด้วยการใช้รถไฟสาย Kintetsu-Nara โดยไปตั้งต้นที่สถานีนัมบะ
(Namba) แล้วลงที่ปลายทางสถานี Kintetsu-Nara ใจกลางเมืองนารา จากนั้นก็เดินแบกเป้เที่ยวเมืองนารากันได้เลย
เพราะสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งนั้นไม่ไกลกันเกินกำลังขาของคุณๆหรอกน่า
ระหว่างทางไปวัดโทไดจิ จะต้องเดินผ่านสวนที่เต็มไปด้วยฝูงกวาง
กวางที่นี่จะเดินปะปนกับนักท่องเที่ยวเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งเลย
วัดโทไดจิ (Todaiji Temple) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า
วัดกวาง ที่หากใครก็ตามที่ได้มาเยือนที่นี่แล้วจะต้องมา ไม่มาถือว่ามาไม่ถึงนะ
เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะต้องมีรูปถ่ายคู่กับกวางไม่งั้นจะไปคุยกับเขาไม่ได้ว่ามาเที่ยวที่วัดกวางแล้ว
ก่อนเข้าวัดจะมีสระน้ำขนาดใหญ่
กวางที่นี่แค่กวักมือเรียกก็มาแล้ว
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟนัก
นับก้าวไปประมาณ 800 เมตรได้ จะเจอกับลานขายของขนาดใหญ่
บริเวณหน้าลานและสวนข้างๆจะมีแต่ฝูงกวางเต็มไปหมด
ย้ำเลยว่าฝูงกวางเพราะมันเยอะจริงๆ เดินชูคอรออาหารจากคนที่มาเที่ยว
จุดนี้ต้องระวังของกินในมือให้ดี เพราะคุณเธออาจจะงาบฉกของจากในมือไปได้
ซุ้มประตูแรกทางเข้าวัด
แม้แต่เด็กนักเรียนก็มาทัศนศึกษากันที่นี่จ้า
เจ้าถิ่นประจำที่นี่
วัดโทไดจิเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ราชวงศ์โชมุ
จุดเด่นอยู่ที่พระพุทธรูปไดบุทสึ (Daibutsuden) องค์ขนาดใหญ่เป็นพระพุทธรูปแบบศิลปะญี่ปุ่นสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 752 ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถเก่าแก่ทำด้วยไม้
ตรงจุดนี้จะต้องเสียค่าตั๋วเข้าไปชมก่อน คนละ 500 เยน เด็ก 300 เยน ถ้าเดินขึ้นบนเนินเขาไปอีกก็จะมีในส่วนของวัดอีก
มีจุดชมวิวเมืองนาราด้านบน และมีน้ำน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ได้รดเพื่อขอพรด้วย
อุโบสถไม้หลังใหญ่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึองค์โต
ประตูทางเข้าวิหารหลัก
ทางเดินขึ้นเขาไปสู่อีกวัดหนึ่งใกล้กัน
ภายในวิหารและกุฏิสงฆ์
มองจากมุมสูงของวัด
ศิลปะโบราณแบบเมืองหลวงเก่า นารา
น้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้ขอพร และปะพรมตามตัว
ออกจากวัดมาแล้วด้านหน้าวัดมีของฝากของที่ระลึกให้ซื้อไปฝากคนทางบ้านด้วย
แต่ราคาข้าวของที่นี่ค่อนข้างสูง แนะนำให้ไปซื้อที่ตลาดในเมืองจะถูกกว่า
หรือใครจะซื้อขนมเซมเบ้แป้งข้าวพองกรอบๆไปเลี้ยงน้องกวางก็แล้วแต่ศรัทธาเลย
ป้ายเตือนว่าอย่าไปแหย่กวางนะ
ฝูงกวางรุมกินขนมเซมเบ้ที่คนให้
ลาก่อนนะเจ้าตัวน้อย
ถ้าเดินกลับไปทางเดิมจะผ่านวัดโคฟุคุจิ ( Kofuku-ji Temple) และสวนเมืองนารา
(Nara Park) ตั้งอยู่ติดๆกัน วัดโคฟุคุจิโดดเด่นด้วยเจดีย์เหลี่ยมสูง5ชั้นที่มองเห็นได้แต่ไกล
ชื่อเดิมคือวัด Yamashina-dera สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 669 ค่าเข้าชมคนละ 600 เยน
วัดโคฟุคุจิริมทะเลสาบกลางเมืองนารา
ย่านเมืองเก่านารามาจิ (Naramachi) ถ้าใครอยากชมบรรยากาศย่านเมืองเก่าแนะนำย่านนี้เลย
ย่านนารามาจิที่คุณจะต้องเพลิดเพลินไปกับอาคารตึกเก่า บ้านเรือนเก่ายุคโบราณ
บางบ้านได้ดัดแปลงมาเป็นคาเฟ่เล็กๆ ร้านขายของไปจนถึงร้านอาหาร ขนมของกินหายากก็หาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
พ่อค้าแซ่บทุบแป้งทำโมจิสดๆ พร้มเสิร์ฟ
บ้านเมืองเก่าในย่านนารามาจิ
คนที่นี่จำนวนไม่น้อยเลยใช้จักรยานเป็นพาหนะกัน
หน้าร้อนก็มีดอกไม้บานที่นี่นะ
สุดท้ายคงหนีไม่พ้นอาหารการกิน
ของซื้อของฝากที่แนะนำว่าอย่าพลาด อุตส่าห์มาถึงเมืองนาราทั้งทีแล้ว นั่นคือข้าวปั้นห่อใบพลับสด
(Persimmon Leaf Sushi) ใช่แล้วได้ยินไม่ผิดหรอก ใบพลับสดที่บรรจงห่อข้าวปั้นซูชินั่นแหละ
ด้วยสรรพคุณเย็นของใบพลับจะช่วยรักษาอุณหภูมิและความสดของอาหารให้คงความสดอยู่เสมอ
สนนราคาต่อชิ้นค่อนข้างแพงเอาเรื่อง ที่นี่เค้าจะใช้ปลาซาบะมากที่สุด
รองลงมาคือปลาทูน่า และปลาแซลมอน
ใครไม่สะดวกกินที่ร้านจะซื้อกลับมากินที่โรงแรมก็ทำได้ เพราะแต่ละร้านจะมีบริการแพ็คด้วยความเย็นอย่างดีเลย
รับรองไม่เน่าเสียแน่นอน
ซูชิห่อใบพลับสดหน้าปลาซาบะอร่อยที่สุด
ทั่วเมืองนาราจะมีร้านซูชิใบพลับสดเยอะมากๆ
สำหรับอาหารการกินอื่นๆ
ในเมืองนาราก็ไม่แพ้เมืองอื่นๆนะ มีทั้งข้าวหน้าปลาไหล ซูชิ ราเมน
รสชาติไม่แพ้เมืองอื่นๆ แน่นอน ยิ่งได้ไปเดินตลาดที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแล้ว
มีร้านอาหารเยอะมาก ร้านขายของที่ระลึกและร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นก็ไม่แพ้กัน
เอาเป็นว่าใครชอบแนวไหนก็เลือกเดินชมแวะกินได้ตามอัธยาศัย
ว่าแล้วไม่ควรเที่ยวแต่เมืองโอซาก้านะควรจะนั่งรถไฟไปชมเมืองมรดกโลก นารา
กันด้วย แล้วคุณจะหลงรักนาราอย่างหมดใจ
เซ็ทข้าวหน้าปลาไหลที่นี่ก็มีให้ทานนะ
มาเดินเล่นย่านของกินแถวสถานีรถไฟกัน
ปลาแห้ง วัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยในน้ำซุปราเมน
สองสาวกับสัตว์เลี้ยงของพวกนาง
รออีกนิดนะ เกียวโตกำลังจะมาจ้า แนนำสถานที่ท่องเที่ยวและย่านกินอย่างจุใจแน่นอน