วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อาหารพื้นบ้านสงขลาจากตลาดนัด และแม่บ้านเข้าครัว

กับข้าว เข้าครัว         
        หลังจากที่มื้อเย็นมื้อนั้นที่ร้านนายหวานได้ผ่านพ้นไปพร้อมกับค่าเสียหายอันพอสมควร ทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า ถ้าเราจับเล็กผสมน้อยไปซื้ออาหารสำเร็จที่ปรุงมาจากตลาด (เอาเจ้าอร่อยๆนะ) มาทาน พร้อมกับทำอาหารเองที่บ้าน มันก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคเศรษฐกิจแบบนี้
          ว่าแล้วเราไม่รอช้าเช้าวันอาทิตย์เราตื่นแต่6โมง ยังไม่ทันทำอะไรก็คว้าตะกร้า ออกนั่งสามล้อไปตลาดนัดวันอาทิตย์ทันที ซื้ออาหารการกินมามากมาย ตลาดนี้มีตั้งแต่ของสดของปรุง ไล่ไปจนถึงเสื้อผ้าและไม้ดอกไม้ประดับ เอากะเค้าสิ มาดูกันดีกว่าว่าวันนี้เราได้อะไรมาทานบ้าง
      เมนูนี้มีชื่อว่าข้าวมันแกงไก่ หรืออีกนามว่า Nasi Lemak เป็นภาษามาเล ซึ่งน่าจะกำเนิดมาจากมาเลเซียนะคิดว่า ข้าวจะหุงด้วยกะทิให้มันแบบข้าวมันปู ราดด้วยแกงไก่เป็นแกงที่ใช้พริกแกงแดงเป็นแกงกะกิ ใส่ผักสดแนม พร้อมด้วยปลาชิ้งช้างทอดกรอบ บางเจ้าใช้กุ้งหวานแทน และน้ำพริกรสเผ้ดมากๆกองไว้ วิธีการกินให้นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าด้วยกันหรือบางคนอาจจะกินแยกก็ได้ จานนี้รสชาติค่อนข้างจัดนิดนึง
         สำรับชาวใต้ที่จริงแล้วกินง่ายนะ ขอเพียงให้มีผักทุกๆมื้อเป็นผักเหนาะผักแนม อย่างง่ายที่สุดคือการซื้อปลาจากตลาดมาทอดให้กรอบ ซึ่งเราจะใช้ปลาลิ้นหมาบ้าง ปลาทรายบ้างเป็นปลาพื้นบ้านที่มีมากในสงขลา แล้วเราก็ซื้อมะขามสดจากตลาดมาตำเป็นน้ำพริกมะขามรสเปรี้ยวจี๊ด กินกับผักสดพวกสายบัว มะเขือ ถั่วฝักยาว แตงร้าน ขิงอ่อน ฯลฯ
     อีกรายการนึงที่ชาวใต้ชอบทำกันคือต้มส้มปลากระบอก เค้าจะใช้ปลากระบอกพื้นบ้านสดสด มาต้มกับขมิ้นให้น้ำออกเหลืองใส่น้ำมะขามลงไปและใส่มะนาวกับตะใคร้ต้นเพื่อดับกลิ่นคาวปลา ส่วนผสมน้อยแต่อร่อยเหาะ กินกับน้ำแกงพุงปลา (ไตปลา) ปลาเค็มทอด และหมูค้องซึ่งเป็นหมูต้มเค็ม

        รายการนี้เชื่อว่าหลายคนสงสัยแน่ๆว่ามันคืออะไรแล้วทานได้จริงเหรอ  ถูกต้องแล้วมันทานได้เพราะมันคือขนมหม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นการสร้างสรรค์อาหารที่ียากจะเลียนแบบได้ ด้วยการไปตัดกระเปาะกินแมลงของต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงมาล้างให้สะอาด กวาดเอาซากแมลงกับน้ำย่อยในกระเปาะออกให้หมดแล้วบรรจุข้าวเหนียวลงไปหุงพร้อมกะทิ จากนั้นนำไปนึ่งในลังถึงให้ข้าวสุกพร้อมราดด้วยน้ำกะทิ รสชาติเหมือนข้าวหลามไม่มีผิดเพี้ยนแต่จะได้ความเหนียวจากใบหม้อข้าวหม้อแกงลิงไปด้วย เพราะต้องทานทั้งลูก หลายคนยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องมาทานหม้อเก็บแมลงแบบนี้ แต่เราว่ามันก็อร่อยแปลกไปอีกแบบนะ
       ขนมเทียนแก้ว เสียดายที่ไม่ได้แกะถ่ายรูป ภายในเนื้อจะเป็นเนื้อใสใส และมีลูกขนมสีเหลืองอยู่ตรงกลางชิ้น หน้าตาสีสันชวนทานมากๆ รายการนี้เป็นของหวานไม่ใช่ขนมเทียนรสเค็มแบบเดิมๆ
หวังว่าคุณผู้อ่านคงจะจินตนาการรสชาติตามคำบรรยายได้บ้างไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น