วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แบกเป้เที่ยวฟิลิปปินส์ตอนที่1 เตรียมตัวก่อนไปเที่ยวฟิลิปปินส์

                สิ่งแรกที่เราชาวแบกเป้จะต้องทำคือการหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่จะไปนั้นให้มากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ถูกเชือดคาเขียง และจะได้ไม่มึนโฮ หรือหลงเอ๋อตามสถานที่ต่างๆ เราชาวแบกเป้ต้องมีสติ มิฉะนั้นสตางค์อาจหายวับไปจากกระเป๋าได้จากความตั้งใจของผู้หวังดี (หวังฟัน)  ซึ่งในสมัยนี้มีผู้มาเขียนรีวิวเกี่ยวกับฟิลิปปินส์เป็นภาษาไทยน้อยมาก ที่ดังๆหน่อยจะมีของพี่วุฒิและพี่เคท ส่วนฉบับภาษาอังกฤษนั้นหาอ่านได้ทั่วไป แต่ต้องแปลเอาเอง  อันดับต่อมาคือการจองตั๋วเครื่องบิน มีสายการบินหลายสายที่ให้บริการทั้งการบินไทยและฟิลิปปินส์แอร์ไลน์เจ้าเก่า ที่บินตรงระหว่างกรุงเทพฯและมะนิลามาเนิ่นนานแล้วแต่ราคาค่อนข้างสูง  นอกจากนั้นยังมีแอร์เอเชียแต่ต้องไปขึ้นที่กัวลาลัมเปอร์ ครั้งนี้เราเลือกสายการบินน้องใหม่คือ สายการบินเซบูแปซิฟิก ทิ่เปิดเที่ยวบินตรงใหม่ระหว่าง กรุงเทพฯ-คลาร์ก ราคารวมเริ่มต้นที่1190 และกรุงเทพฯ-มะนิลา ราคารวมเริ่มต้นที่ 1590บาท เลยเกิดความคิดว่า เราน่าจะไปได้นะ ว่าแล้วก็ลองเลือกดู เราเลือกบินตรงมะนิลา เพราะไม่อยากต่อรถเข้าเมืองมะนิลาที่สนามบินคลาร์ก Clark  International Airport ซึ่งใช้เวลามากกว่า2ชั่วโมง ในการเดินทางเข้ากรุงมะนิลา หากบินตรงลงมะนิลาเครื่องก็จะนำไปลงที่สนามบิน Ninoy Aquino อ่านว่า นินอย อะคิโน่ ตั้งตามชื่ออดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ซึ่งสนามบินจะใช้ตัวย่อว่า NAIA
            เราเลือกวันที่จะเดินทางไปฟิลิปปินส์ เห็นว่า4วันน่าจะเพียงพอต่อการเดินทางในมะนิลาทั้งหมด เลยเลือกเดินทางวันพฤหัส กลับวันอาทิตย์ ผลปรากฏว่าเราได้ตั๋วเดินทางวันที่7 ตุลาคม 2553 เวลาตีหนึ่ง ไปถึงที่มะนิลาประมาณตีห้า (เวลาที่นั่นเร็วกว่าไทย1ชั่วโมง ) และขากลับวันที่ 10ตุลาคม 2553 เวลาสามทุ่ม มาถึงกรุงเทพฯห้าทุ่ม  ของสายการบินเซบูแปซิฟิก สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.cebupacificair.com/
ได้ตั๋วโปรโมชั่นรวมภาษีสนามบินทุกอย่างแล้ว รวมอยู่ที่4000บาท ถึงแม้จะแพงไปนิดแต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทางไปเปิดหูเปิดตากับเมืองแปลกและประเทศที่คนไทยเค้าไม่ค่อยไปกัน
                อันดับต่อไปคือการแลกเงิน แนะนำให้ควรแลกเงินก่อนไปเที่ยวประเทศต่างๆ ทุกประเทศ ไม่ควรไปแลกในประเทศนั้นๆ เพราะเราอาจไม่รู้สถานที่แลก และอาจต้องแลกในอัตราที่แพงกว่าปกติอีกด้วย เงินดอลลาร์สหรัฐก็สามารถใช้ได้ที่ฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน  แต่เค้าจะทอนมาเป็นเงินเปโซ อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินไทยกับเงินฟิลิปปินส์อยู่ที่ 1เปโซ เท่ากับ 0.7บาท ตัวย่อของสกุลเงินคือ PHP ย่อมาจาก Philippines Peso ที่โน่นค่าเงินจะต่ำกว่าบ้านเรา และค่าครองชีพโดยรวมก็ถูกกว่า ดังนั้นเราสามารถกินได้เต็มที่ไม่ต้องประหยัดเรื่องกินนัก
 ย่านมากาติเป็นย่านธุรกิจ ค่าครองชีพที่นี่จะสูงกว่าย่านอื่นๆ 
 ย่านปารานันย่า (Paranaque) ที่พักถูกแต่เต็มไปด้วยแหล่งเสื่อมโทรม

 ย่านพาไซ (Pasay City) รถติดมาก
ย่านมะนิลาเบย์ ที่พักก็แพงเช่นกันเพราะอยู่ติดทะเล

                ต่อไปเรื่องที่พัก อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้น หากคุณไปเมืองมะนิลา ไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้านานๆ เพราะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวโดยตรง มีโรงแรมเหลือเฟือให้พัก ขอเพียงให้รู้จักย่านที่จะพักเพื่อที่จะได้บอกแท็กซี่ได้ถูกว่าจะไปไหน ถ้าต้องการที่พักที่มีระดับ และความปลอดภัยสูง แนะให้ไปพักย่านมากาติ (Makati) ราคาจะเริ่มต้นที่900 บาทขึ้นไป เพราะที่นั่นคือย่านธุรกิจ หากพักย่าน Ermita ที่อยู่ใกล้ Manila Bay ล่ะก็จะประมาณ 600บาทขึ้นไป  หากเป็นย่าน       Pasay ราคาก็จะถูกลงอีก เพราะคล้ายกับย่านดินแดงของบ้านเรา  ราคาก็จะไม่ถึงพันบาท แต่ถ้าคุณจะไปพักร้อนตามเกาะที่ขึ้นชื่อเช่น เซบู (Cebu) ปาลาวัน (Palawan) หรือ บอราเคย์ (Boracay) ที่เป็นชายหาดที่สวยงามที่สุดและขึ้นชื่อล่ะก็ คุณอาจต้องจองที่พักล่วงหน้า และค่าที่พักย่อมไม่ต่ำกว่าสามพันบาท  ราคาแพงใกล้เคียงกับโรงแรมแถวกระบี่ ภูเก็ตเลย 
 นี่แหละโรงแรมที่แพงที่สุดและดีที่สุดในมะนิลา Manila Hotel ตั้งอยู่ติดกับอินทรามูรอส


โรงแรมลอยน้ำที่ดัดแปลงจากเรือ ค่าห้องแพงระยับริมอ่าวมะนิลาเบย์
โรงแรมเพนนินซูล่าที่เป็นมาตรฐานสากลทั่วโลก ย่านมากาติ

ตอนต่อไปพบกับ การเหินฟ้าสู่กรุงมะนิลาและการเข้าที่พักตั้งแต่เช้ามืด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น